ข้อความต้นฉบับในหน้า
มัชฌิมยาม ท่ามกลางแห่งราตรี บรรลุวิชชาที่ 2 จุตูปปาตญาณ คือ กำหนดรู้การจุติและ
การอุบัติของสัตว์ทั้งหลาย ทรงเห็นการไปเกิดมาเกิดการเวียนตายเวียนเกิดของสรรพสัตว์ด้วยธรรมจักษุว่า
เป็นไปตามกรรม ทำให้ถือกำเนิดต่างกัน บ้างถือกำเนิดต่ำทรามเป็นสัตว์เดรัจฉานก็มี เปรตอสุรกายก็มี
มีผิวพรรณหยาบ ทุกข์ยากลำบากในการดำรงชีวิต บ้างตัวถือกำเนิดประณีต เป็นมนุษย์ก็มี เทวดาก็มี
มีผิวพรรณดีอ่อนละมุนมีความเป็นอยู่ดี ณ ตรงจุดนี้เองที่พระพุทธองค์ทรงรู้แจ้งเรื่องราวกฎแห่งกรรมของหมู่
ทรงทอดพระเนตรเห็นว่ากรรมคือเบื้องหลังที่จำแนกหมู่สัตว์ให้มีความแตกต่างกัน ยิ่งแตกต่างกันมาก
เท่าไรยิ่งทำให้เกิดความขัดแย้งกันทางความคิด คำพูด การกระทำ
ปัจฉิมยาม ที่สุดแห่งราตรี บรรลุวิชชาที่ 3 อาสวักขยญาณ คือ ทำลายอาสวกิเลสของพระองค์
ให้หมดสิ้นไป บรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ที่ 4 แห่งภัทรกัปนี้ ทรงเป็น
สัพพัญญู เป็นที่พึ่งพิงแห่งสัตวโลก ทรงอาศัยพระมหากรุณาธิคุณต่อหมู่สัตว์ นำมาบอกเล่าให้ฟังว่า ชีวิต
หลังความตายยังมีภพชาติเกิดขึ้น เพราะกรรมและการให้ผลแบ่งแยกหมู่สัตว์ไปนรกบ้างไปสวรรค์บ้าง ทำ
อย่างไรจึงไปนรก ทำอย่างไรจึงไปสวรรค์ ทรงบอกหมดไม่ปิดบังไม่หวงความรู้ เพราะว่าตลอด 20 อสงไขยกัป
กับเศษอีกแสนกัป ทรงบำเพ็ญเพียรมุ่งตรงต่อหนทางการตรัสรู้อริยสัจ 4 ประการ เพื่อยกตนและหมู่สัตว์
ให้หลุดพ้นจากวงจรสังสารวัฏนี้
เวลากลางคืนสมัยโบราณแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ช่วงละ 4 ชั่วโมง เพื่อให้เกิดความเข้าใจจึงต้อง
เทียบกับเวลาปัจจุบัน ดังนี้
ปฐมยาม เวลาโดยประมาณ 18.00-22.00 น.
มัชฌิมยาม เวลาโดยประมาณ 22.00-02.00 น.
ปัจฉิมยาม เวลาโดยประมาณ 02.00-06.00 น.
1.2.2 กรรมวิบากเป็นอจินไตย
กรรมและการให้ผลของกรรมเป็นอจินไตย เป็นเรื่องที่เสขบุคคล คือ บุคคลที่ยังต้องศึกษาเพื่อ
การหลุดพ้น และปุถุชนธรรมดาไม่ควรคิดด้วยสติปัญญาของตน เพราะเรื่องกฎแห่งกรรมมีกลไกที่ซับซ้อน
อย่างมาก ไม่อาจแยกแยะด้วยตาเปล่าหรือการคิดเชิงเหตุผลโดยมีสมมติฐานจากการคาดการณ์เอาทฤษฎี
โน้นมาผสมทฤษฎีนี้ คิดกันไม่รู้จบ ท่านนี้คิดอย่างนี้แต่ท่านอื่นคิดอีกอย่าง ความเห็นไม่ตรงกัน บางท่านคิด
จนตายก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ การเห็นกรรมวิบากจะต้องอาศัยเครื่องมือเฉพาะคือธรรมจักษุ ที่ทำให้เกิด
ญาณหยั่งรู้เห็นอย่างแจ่มแจ้งเรื่องในอดีตชาติ(อดีตังสญาณ)
ปัจจุบันชาติ(ปัจจุปปันนังสญาณ)
อนาคต อนาคตังสญาณ) และญาณกำหนดรู้ว่าสัตว์ทั้งหลายต้องเป็นไปตามกรรม(ยถากัมมูปคญาณ) ซึ่งมี
แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้นที่ตรัสรู้เรื่องนี้ได้จึงเป็นพุทธวิสัย พระองค์ตรัสบอกผู้ที่กำลังคิดหรือกำลัง
14 DOU ก ฏ แ ห่ ง ก ร ร ม