ข้อความต้นฉบับในหน้า
6.2.2 การกำเนิดบาปในพระพุทธศาสนา
จากการที่นักศึกษาได้เรียนรู้ทรรศนะการล้างบาปในศาสนาต่างๆ ที่ผ่านมา จะเห็นว่าในเรื่องการ
กำเนิดบาปในแต่ละศาสนามีความเชื่อที่ต่างกัน ศาสนาที่นับถือพระเจ้าอย่างศาสนาคริสต์และศาสนา
พราหมณ์-ฮินดู มักจะเชื่อว่า บาปเกิดจากการที่ผิดคำสั่งของพระผู้เป็นเจ้า เช่น ศาสนาคริสต์เชื่อว่า บาป
เกิดจากการที่อาดัมกับอีวาแอบกินแอปเปิ้ลในสวนเอเดน ซึ่งเป็นการผิดคำสั่งพระเจ้า ทำให้มีบาปติดตัว
มาถึงลูกหลานและมนุษย์ทั่วโลก โดยนัยนี้ศาสนาคริสต์เชื่อว่า บาปตกทอดทางสายเลือด ดังนั้นมนุษย์ที่
เกิดใหม่จะต้องรับศีลล้างบาป หรือคำสอนที่ว่า พระเจ้าทรงไว้ซึ่งสิทธิ์ขาดที่จะยกเลิกบาปให้ใครๆ ได้ โดย
การไถ่บาป ขอเพียงอย่างเดียว คือ ให้ผู้นั้นภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น
ส่วนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงรู้แจ้งโลกทั้งปวง มีความรู้ในทุกสิ่งทุกอย่างตามความเป็นจริง
ทรงเห็นกลไกความเป็นไปของกฎธรรมชาติ เป็นผลทำให้พระองค์ทรงรู้จักธรรมชาติของกิเลส อันเป็น
ต้นเหตุแห่งการเกิดบาปทั้งหลายได้อย่างถูกต้องตรงความเป็นจริง และสามารถกำจัดกิเลสเหล่านั้นออกไป
โดยสิ้นเชิงและเด็ดขาด พระองค์ทรงสรุปเรื่องการกำเนิดบาปไว้อย่างชัดเจนว่า
“นตฺถิ ปาง อกุพฺพโต
บาปย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้ไม่ทำบาป”
“อตฺตนา ว ก ปาป์ อตฺตนา สงฺกิลิสฺสติ
ใครทำบาป คนนั้นก็เศร้าหมองเอง”
“อตตนา อกติ ปาง อตฺตนา ว วิสชุมติ
ใครไม่ทำบาป คนนั้นก็บริสุทธิ์”
จากพระพุทธวจนะนี้ เป็นเครื่องยืนยันการค้นพบของพระองค์ว่า บาปเป็นเรื่องเฉพาะตัว ไม่ใช่
สิ่งที่ติดต่อกันได้ใครทำบาปคนนั้นก็ได้รับบาปเองใครไม่ทำบาปก็รอดตัวไป หากพ่อทำบาปก็เป็นกรรมของพ่อ
จะไม่ตกไปถึงลูก เหมือนพ่อกินข้าวอิ่ม ลูกก็ไม่ได้อิ่มด้วย ดังนั้นสรุปว่า ตามความเห็นของพระพุทธศาสนา
บาปเกิดขึ้นที่ตัวผู้ทำเอง คือ เกิดจากกิเลสในใจของผู้ทำ ไม่เกี่ยวกับบุคคลอื่น ถ้าใครทำชั่ว บาปก็จะ
กัดกร่อนใจผู้นั้น ให้ใจเศร้าหมอง ขุ่นมัว ทำให้เกิดทุกข์ทรมาน ขาดประสิทธิภาพ
6.2.3 บาปเกิดได้ 3 ทาง
ดังที่ทราบแล้วว่า บาปเกิดจากกิเลสภายในใจ คือ โลภะ โทสะ โมหะ บังคับจิตใจมนุษย์ให้กระทำ
เรื่องนายพรานกุกกุฏมิตร, อรรถกถาขุททกนิกาย คาถาธรรมบท, มก. เล่ม 42 หน้า 40
* เรื่องอุบาสกชื่อจุลกาล, ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท, มก. เล่ม 42 หน้า 222
บ ท ที่ 6 ท ร ร ศ น ะ เ รื่ อ ง ก า ร ล า ง บ า ง ใ น พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า DOU 129