ความสำคัญของการตั้งเป้าหมายชีวิตและบุญกุศล GL 203 กฎแห่งกรรม หน้า 185
หน้าที่ 185 / 214

สรุปเนื้อหา

การตั้งเป้าหมายชีวิตที่แคบอาจทำให้เราเสี่ยงต่อการไม่มีความพร้อมสำหรับชีวิตหลังความตาย การสร้างบุญกุศลและละบาปเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรละเลย เพื่อให้เราสามารถสร้างความดีและมีจิตใจที่ผ่องใสก่อนจากโลกนี้ไป หากเราใช้ชีวิตอย่างประมาทและไม่เตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังการตาย ก็จะมีโอกาสสูงที่จะมีผลกรรมที่ไม่ดีตามมา ดังนั้น ควรใช้ชีวิตให้ดีที่สุดในทุกๆ วัน สร้างแต่กุศลกรรมและไม่ยึดติดกับอดีต

หัวข้อประเด็น

- ความสำคัญของการตั้งเป้าหมายชีวิต
- บุญกุศลและอกุศลกรรม
- ความหมายของชีวิตหลังความตาย
- การเตรียมตัวก่อนตาย
- คติที่จะไปหลังจากตายไป

ข้อความต้นฉบับในหน้า

การตั้งเป้าหมายชีวิตเช่นนี้ เป็นการตั้งเป้าหมายชีวิตที่แคบ สั้น และเสี่ยงอันตราย เป็นความคิด ที่อยู่บนพื้นฐานของความประมาท ไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับชีวิตหลังความตาย เพราะในเวลาใกล้ตายจะ มีภาพเหตุการณ์แสดงสิ่งที่ตนเองได้ทำเอาไว้ตลอดชีวิต มาปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนในมรณาสันนวิถีจิตที่ ใกล้จะตาย ภาพเหตุการณ์เหล่านี้จะเป็นเครื่องบอกล่วงหน้าให้รู้ว่า จักได้ไปสู่สุคติหรือทุคติ ภาพเหตุการณ์ นี้เรียกว่า คตินิมิตตารมณ์ อันบ่งบอกถึงคติที่จะไปหลังจากตายไป ดังเช่นที่พระนาคเสนตอบปัญหาของ พระเจ้ามิลินท์ว่า “เปรียบบุญกุศลเหมือนเรือ บาปกรรมเหมือนศิลา คนที่กระทำบาปอยู่เสมอจนตลอดชีวิต ถ้าเวลาจะตายมิได้ปล่อยจิตใจให้ตามระทมถึงบาปที่ตัวทำมา แต่หลังจากนั้น สามารถประคองใจไว้ ในแนวแห่งกุศลอย่างใดอย่างหนึ่งเช่นอาจทำใจให้แน่วอยู่เฉพาะแต่ในพระคุณของพระพุทธเจ้าเท่านั้น ถ้าตายลงในขณะแห่งจิตดวงนั้น ก็เป็นอันหวังได้ว่าไปสุคติ ประหนึ่งศิลาซึ่งมีเรือทานน้ำหนักไว้ มิให้ จมลงฉะนั้น ส่วนผู้ที่กระทำบาปที่สุดแต่ครั้งเดียว ถ้าเวลาใกล้จะดับจิต เพียงแต่จิตหวนไปพัวพันถึง กิริยาอาการที่ตัวกระทำบาปที่สุดแต่ครั้งเดียว ถ้าเวลาใกล้จะดับจิต เพียงแต่จิตหวนไปพัวพันถึง กิริยาอาการที่ตัวกระทำบาปกรรมไว้เท่านั้น จิตดวงนั้นก็หนักพอที่จะถ่วงตัวให้ไปเกิดในนรก ซึ่ง เหมือนศิลาที่เราโยนลงไปในน้ำ แม้จะก้อนเล็กก็คงจมเช่นเดียวกัน” ดังนั้น เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นอัตภาพที่สามารถสร้างบุญกุศลได้อย่างเต็มที่ จึงควรที่จะเร่ง สร้างบุญสร้างบารมีก่อนที่จะตายจากโลกนี้ไป บุคคลใดก็ตามที่เคยทำอกุศลกรรมมาแล้วในอดีตก็ขอให้ลืม ไปให้หมด เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้ ส่วนเรื่องอนาคตยังมาไม่ถึงก็อย่าไปวิตกกังวล พึงทุ่มชีวิตทำวันนี้ให้ดีที่สุดด้วยการละบาปอกุศลกรรม สร้างแต่กุศลกรรม และทำใจให้ผ่องใสอยู่เนืองนิตย์ อย่าได้ลังเลสงสัยอยู่ด้วยความประมาทก่อนที่จะตายจากโลกนี้ไป เพราะถ้าตายไปแล้วก็จะไม่มีโอกาสที่จะ ย้อนกลับมาสร้างกุศลกรรมได้อีก และเมื่อตายไปแล้วย่อมไม่มีใครสามารถที่จะมาช่วยเหลือเราได้เลย นอกจากกุศลกรรมและอกุศลกรรมที่ตนเองได้กระทำไว้เท่านั้นที่จะนำพาให้ไปสู่สุคติภูมิหรือทุคติภูมิ ดังที่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า “ปาณิมหิ เจ วโณ นาสุส เรยย ปาณินา วิส นาฬพณ์ วิสมเนวติ นตฺถิ ปาง อกุพฺพโต” ถ้าแผลไม่พึงมีในฝ่ามือไซร้ บุคคลพึงนำยาพิษไปด้วย ฝ่ามือได้ เพราะยาพิษย่อมไม่ซึมเข้าไปสู่ฝ่ามือที่ไม่มีแผล ฉันใด บาปย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่ทำอยู่ ฉันนั้น 1 ปุ๋ย แสงฉาย, อัสสสตปัญหาที่ 2 มิลินทปัญหา, (กรุงเทพฯ : ลูก ส. ธรรมภักดี, 2528), หน้า 127 * รายละเอียดเรื่องมนุสสภูมิได้อธิบายไว้แล้วในเนื้อหาวิชาจักรวาลวิทยาและวิชาปรโลกวิทยา * เรื่องนายพรานกุกกุฏมิตร, อรรถกถาขุททกนิกาย คาถาธรรมบท, มก. เล่ม 42 หน้า 36 บ า ที่ 7 ก ร ณี ศึ ก ษ า เ รื่ อ ง ก า แ ห่ ง ก ร ร ม DOU 175
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More