ข้อความต้นฉบับในหน้า
ทราย ปลาหางแข็ง ปลาเก๋า ปลา โลมา ปลาพะยูน อุดม
สมบูรณ์ ไม่ต้องแล่นเรือไปหาปลาในน่านน้ำของประเทศเพื่อน
บ้านอย่างมาเลเซีย อินโดนีเซีย และพม่า กันอย่างในสมัยนี้
ได้ปลามากมายพอขายและทำกินเอง บางครั้งลูกปลาฉลาม
หลงมากินเหยื่อด้วย จับปล่อยแล้ว สักครู่มันก็จะว่ายมา
ใกล้ๆ เรือใหม่อย่างไร้เดียงสา ไกลออกไปในทะเล ฝูงปลา
ฉลามวายหงายเห็นท้องขาวสำราญใจ ในท้องของมันมีซากคน
ที่กินมาจากเกาะอื่นด้วย มันไม่ค่อยกล้ำกรายแถวเกาะมุก
เพราะชายฝั่งตื้น นอกจากลูกเล็กๆ ของมันที่หลงฝูงมา
เที่ยวเล่นตามลำพัง
ผู้ใหญ่หมด ทั้งตกปลาและลากอวน ได้ปลาทั้งตัวใหญ่
ตัวเล็กมาขายและทำอาหาร โดยให้นางนุ้ย ภรรยา ผ่าปลา
แล่เนื้อ ทั้งๆ ที่บางตัวยังหายใจดิ้นดุกดิก มีปลาลัง ปลาโอ
ปลาทู ปลาอินทรี ปลาหางแข็ง เอาไว้ขายคนทำปลาเค็ม
แม้มือจะถือมีด แต่ใบหน้าของคนทำปลาเรียบเฉย เพราะไม่
ได้มามันด้วยความโกรธหรือเกลียด เพราะความจำเป็นบังคับ
ให้เลี้ยงตนและลูกเล็กๆ อีก 7 คน การท้าปลาจึงเป็น
กิจวัตรที่ต้องทำทุกเช้าและเย็น เพื่อให้ทันเวลาคนรับซื้อปลา
จากกระบี่และตรัง
หมดเป็นนักหาปลาระหว่างเกาะ จนกระทั่งมาสร้างถิ่น
ฐานที่เกาะมุกเมื่อเจอภรรยาคนที่สองคือนางนุ้ย และมีลูกชาย
ติดๆ กันถึง 5 คน ลูกสาว 2 คน เป็นลูกติดของแม่ปุ๋ย 1
คน นอกจากทําประมงเป็นอาชีพหลักแล้ว ยังมีอาชีพเสริม
คือเป็นเจ้ามือรับซื้อหวยอีกด้วย
ผู้ใหญ่หมด เป็นที่รักและเคารพนับถือของชาวบ้านบน
เกาะซึ่งนับถือศาสนาพุทธเป็นส่วนน้อย ปกครองเรื่อยมา
ตั้งแต่เป็นผู้ใหญ่บ้านจนถึงกำนันโดยไม่มีคู่แข่งและหัวคะแนน
ทุกเย็น เมื่อว่างจากการออกหาปลาแล้ว ผู้ใหญ่หมดจะเดิน
ไปสำรวจความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ทำดังนี้เป็นกิจวัตร จน
กระทั่งทางการได้แต่งตั้งให้เป็นกำนันปกครองเกาะมุกและเกาะ
ลิบง
อยู่มาวันหนึ่ง แม่ปุ๋ยเสียชีวิตด้วยวัย 42 ปีในขณะที่
ลูกชายคนเล็กเพิ่งมีอายุ 2 ขวบ ทุกคนในหมู่บ้านเสียดาย
ถึงกับร้องไห้ที่แม่ปุ๋ยจากไปก่อนวัยอันควร ด้วยอุปนิสัยพูด
น้อย เงียบไม่เคยนินทาว่าร้ายใคร ไฟในไม่นำออก ไฟนอก
ไม่นำเข้า ไม่ชอบเถียง ไม่ขึ้นเสียง ยอมให้คนทุกคน มี
เสียงดุก็ต่อเมื่อลูกๆ ชนชอบเล่นน้ำทะเลไม่เป็นเวลา ไม่ยอม
ไปเรียนหนังสือ ทั่วทั้งเกาะรู้ว่าแม่ปุ๋ยเป็นคนใจดี จนได้ชื่อ
18
case study
19
กฏแห่งกรรม
"ยักษ์น้ำ - ปลาทะเล"