ข้อความต้นฉบับในหน้า
อยู่แล้ว
ลูกชายทั้งห้าคน มี วิชิต วินิช ปรีชา สมโชค และ
ศักดิ์ชัย มีความรู้สึกตรงกันอย่างหนึ่งคือ เราเป็นเพื่อนกัน
มากกว่าเป็นพี่น้อง เวลาเจอหน้ากัน จะจับบ่ากอดไหลและ
ทักทายกันอย่างเพื่อน ส่วนน้องชายคนที่อยู่ภูเก็ต ตอนอยู่
กรุงเทพฯ เคยรับหลานสองคนซึ่งเป็นลูกของพี่สาวไปอยู่ด้วย
ทำหน้าที่เหมือนเป็นพ่อทุกอย่าง ไม่ว่าจะสอนให้ทำงานบ้าน
ไม่ว่าซักผ้า รีดผ้า และอบรมมารยาทต่างๆ ในขณะที่พี่น้อง
คนอื่นไดแต่ส่งเงินให้หลานเรียนหนังสือเท่านั้น ฝันในฝัน
ของคุณครูไม่ใหญ่ ทำให้เราเข้าใจว่า ทำไมน้องชายคนนี้จึง
ได้ดูแลลูกของพี่สาวใกล้ชิดกว่าใครๆ ทำให้หายสงสัยเรื่อง
ที่เราอยากรู้
ชีวิตบนเกาะลำบากอย่างที่คุณครูไม่ใหญ่พูดจริงๆ เพราะ
ลำพังเงินเดือนผู้ใหญ่บ้าน กำนันไม่กี่บาทเอง การเดินทางก็
ลำบาก สมัยโน้นต้องนั่งเรือนาน 3-4 ชั่วโมงไปแผ่นดินใหญ่
รวมไปกลับ 8 ชั่วโมง แต่เดี๋ยวนี้ไปกลับเพียง 3-4 ชั่วโมง
เพราะมีถนนตัดผ่าน ที่พ่อต้องเสียชีวิต ก็เพราะไปทางเรือ
นานหลายชั่วโมง
โรงเรียนบนเกาะมีถึงชั้น ป.6 ด้วยความยากจน พ่อ
จึงส่งพี่ๆ น้องๆ ทุกคนให้ไปเรียนโรงเรียนประจำ ชื่อโรง
เรียนศึกษาสงเคราะห์เขาพนม ที่จังหวัดกระบี่ ตั้งแต่ชั้น
ป.1-ป.6 เพราะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น มีรัฐบาล
เป็นผู้สนับสนุนค่าเรียนและค่ากินอยู่ทั้งหมด พอจ่ายเฉพาะ
ค่าเดินทางไปรับส่งช่วงปิดและเปิดเทอมเท่านั้น มีผมคนเดียว
เรียนที่เกาะมุกจนจบชั้น ป.6 เพราะพ่อเป็นห่วงผมที่หูตึง
เกรงว่าผมจะไปลำบาก ขนาดเรียนโรงเรียนบนเกาะ ผมได้
เงินเพียง 25 สตางค์ ซื้อข้าวต้มไม่ใส่ไข่ได้ 1 ถ้วย นานๆ
ที่ได้เงิน 1 บาท ขนาดพี่ๆ น้องๆ อีก 6 คนไม่อยู่หารด้วย
อาหารการกินบนเกาะมีแต่ของทะเล นานๆ จะได้กิน
เนื้อวัว ไก่ และหมู เพราะต้องสั่งซื้อมาจากที่อื่น บนเกาะ
ไม่มีการเลี้ยงสัตว์ หรือถ้าจะมีก็มีน้อยมาก ไม่มีสัตว์ใหญ่
หรือสัตว์ร้ายอย่างเสือ หมี มีแต่ลิงและแลน วิ่งขึ้นลงต้นไม้
ผลไม้ได้กินแต่มะพร้าวและกล้วยเป็นพื้น นานๆ ที่จะมีเรือ
เดินสมุทรมาจากสิงคโปร์แวะที่เกาะ ถึงจะได้กินแอปเปิ้ลและ
องุ่น ชาวเกาะดีใจมาก จะรีบเอาของทะเลไปแลกกัน ส่วน
ผักผลไม้อย่างอื่นต้องสั่งมาจากแผ่นดินใหญ่ ปลูกเองก็ไม่ได้
เพราะดินเป็นดินปนทราย นอกนั้นเป็นสวนยางพารา
เรื่องราวฝันในฝันเกี่ยวกับชีวิตของผม สิ่งที่ผมสงสัย
34
case study
35
กฏแห่งกรรม
"ยักษ์น้ำ - ปลาทะเล"