ข้อความต้นฉบับในหน้า ชีวิตในที่เกิดเหตุบนรถทัศนาจรป่าน้ำหนาวบนถนนพหลโยธิน
ไม่เคยคิดเลยว่าเช้าที่อากาศสดใสวันหนึ่ง
เขาเดินทางออก
จากโรงเรียนพร้อมเพื่อนๆ รุ่นราวคราวเดียวกันร้อยกว่าชีวิต
จะประสบมรณภัยอย่างร้ายแรงและรวดเร็วอย่างนี้ เพราะเมื่อ
คืนเขายังเที่ยวและกินอาหารกับเพื่อนๆ ร่วมก๊วนมาจบที่ร้าน
เพลงเพื่อชีวิต ไม่มีใครคิดสังหรณ์ใจกับคำพูดของเขาที่ว่า
“เอ้า กินเสีย นี่เป็นครั้งสุดท้ายนะโว้ย” จะเป็นลางว่า
เขาจะไม่ได้กลับมาที่นี่จริงๆ
อารมณ์รื่นเริงตามประสาวัยรุ่นยังติดมาถึงเช้าวันเดินทาง
แม้เสียงร้องเพลงบนรถทัศนาจรคันที่สอง จะอึกทึกเพียงใด
เขาก็ยังหลับท่ามกลางเสียงครื้นเครงของเพื่อนๆ ร่วมชั้น ผู้
เหมือนไม่รู้จักความทุกข์..
เสียงร้องสนุกสนานของเพื่อนๆ หยุดไปเมื่อใดไม่รู้ ณัฐกร
ตื่นขึ้นมาในความฝันที่คนเดินทางไกลเท่านั้นจะฝันได้
เขามองเห็นร่างของตัวเองนอนปนกับเพื่อนๆ ที่ล้มระเน
ระนาดบนถนนร้อนระอุด้วยเปลวไอแดดใกล้เที่ยง และผู้คน
ดินขวักไขวดูนักเรียนที่นอนร้องโอดโอยเหล่านี้ แต่ไม่มีใคร
สนใจเขาเลย มีคนตรงเข้ามาจับชีพจรของเขา ลงความเห็น
ว่าเขาตายแล้ว มันจะเป็นไปได้อย่างไร? เขาเพิ่งหายใจหยกๆ
แต่คอของเขามันหักเหมือนปลามังกรตัวแรกที่เขาเคยเลี้ยงจน
มันโต วันหนึ่งเขาไขน้ำเข้าตู้ปลาไม่ทัน หน้าของมันกระแทก
กระจกตู้จนก้านคอหัก เขายังเสียใจไม่หายจนถึงวันนี้
แต่คนอย่างเขาไม่น่าตายในเมื่อเขาอายุแค่ 18 ปีเอง กำลัง
เป็นอนาคตสดใสของชาติ ไม่เคยทำให้ผู้ปกครองหนักใจ
ตั้งใจเรียนหนังสือและทำงานไปด้วยเพื่อแม่และน้อง ทั้งขาย
เครื่องกรองน้ำ ทำงานในร้านเช่าวีดิโอ ทำคอมพิวเตอร์ ฯลฯ
ไม่เคยเกเร ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ หรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
จนได้รับรางวัลนักเรียนความประพฤติดีจากโรงเรียน เคยบวช
ช่วยงานวัด เรียนหนังสือใกล้จะจบมัธยมปลายแล้ว เป็น
ความหวังของครอบครัว เพราะเขากำลังจะสมัครสอบเข
เตรียมทหาร เป็นคนที่เพื่อนๆ รักเพราะเขารักเพื่อน คอย
ช่วยเหลือเพื่อน แม้กระทั่งช่วยค่านมลูกของเพื่อนที่ต้องลา
ออกจากโรงเรียนกลางคันไปมีครอบครัว อนาคตของเขายัง
อีกยาวไกล เหตุไฉนจึงจบชีวิตลงง่ายๆ บนถนน ที่เขาเริ่ม
ตั้งต้นเดินทางสายนี้?
แล้วแม่จะว่าอย่างไร ที่ลูกชายต้องมาจากไปก่อนวัย
อันควร เขาเป็นผู้ชายคนเดียวของบ้าน บ้านนี้มีแต่แม่ไม่มี
พอเพราะพ่อนอนหลับสบายละโลกไปเมื่อสิบปีที่แล้ว ท่านไม่
76
case study
77
กฏแห่งกรรม
ตายข้างถนน"