ข้อความต้นฉบับในหน้า
7
รวมพระธรรมเทศนา ๔
ในสมัยพุทธกาล ณ กรุงสาวัตถี มีชายหนุ่ม ๒
คน เป็นเพื่อนรักกัน คนหนึ่งชื่อ “สิริคุตต์” เป็นผู้
เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา อีกคนหนึ่งชื่อ “ครหทินน์”
เป็นสาวกของนิครนถ์ (นักบวชนอกพระพุทธศาสนา)
พวกนิครนถ์ได้พูดกับครหทินน์อยู่เสมอว่า ให้
ไปบอกสิริคุตต์ว่า “การเข้าไปหาพระสมณโคดมนั้น
ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก ให้มาหาผู้เป็นเจ้านิครนถ์ มา
ถวายไทยธรรมแก่นิครนถ์ทั้งหลายจะดีกว่า”
ครหทินน์เพียรพยายามไปพูดกับสิริคุตต์อยู่
เนืองๆ สิริคุตต์ก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่เมื่อถูกรบเร้าบ่อย
เข้า จึงถามเพื่อนไปว่า “พระผู้เป็นเจ้าของท่านรู้อะไร
บ้างล่ะ?”
ครหทินน์ตอบด้วยความภาคภูมิใจว่า “โอ ท่าน
อย่าพูดอย่างนี้ ขึ้นชื่อว่าสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าของเราไม่รู้
เป็นไม่มี ท่านรู้ทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคต รู้ว่าอะไร
จะเกิด อะไรไม่เกิด รู้การกระทำทั้งกาย วาจา ใจ
ของเราเชียวนะ”
สิริคุตต์จึงกล่าวว่า “เรื่องนี้ผมไม่ทราบมาก่อน
เลย ผมอยากจะเห็นอานุภาพของพระผู้เป็นเจ้านิครนถ์
ฉะนั้นขอช่วยนิมนต์ให้ท่านมาฉันภัตตาหารที่บ้านผมใน