การเปลี่ยนรูปเสียงและการใช้ไวยากรณ์ในภาษาไทย : หน้า 47/59

16. เอ๋ ส ตัดบทเป็น เอ๋ สุต คำใดกล่าวหักลบลบลบนี้ถูกต้อง? ก. มินิคติดอยู่หลัง ส บสะระหน้ าแล้ว พูดชมซ้อนกันให้ลบออก ตัว ข. มินิคติดอยู่หลัง ส บสะระหลังแล้ว พูดชมซ้อนกันให้ลบออก ตัว ค. มินิคติดอยู่หน้า เมื่อลบสะหลังแล้ว ถาเป็นพูชมซ้อนกันให้พูชมซ้อนที่เป็นตัวซ้อน ง. มินิคติดอยู่หน้า เมื่อลบสะหน้ าแล้ว ถาเป็นพูชมซ้อนกันให้พูชมซ้อนที่เป็นตัวซ้อน 17. เทวดาตกๆ ถามว่า อ. เรื่องแห่งพระเทวทัต ลงนิคิดถามด้วยอ่านในข้อใด? ก. เพื่อความสะสลอของรูปศัพท์ ข. เพื่ออ่านออกเสียงได้ด้วยฐานะและกรณี ค. เพื่อแสดงให้ทราบว่า นิศิตติดสระรัสสะเท่านั้น ง. เพื่อแสดงให้ทราบว่า นิศิตมีชื่ออูสาร 18. ข้อใดกล่าวผิดหลักไวยากรณ์? ก. มนมดตน ดมนฉุจฉาน อยากปลู สพท์เหล่านี้อาจอาเป็นศัพท์ว่าพวกในคณะเมื่อนเข้ามาสะต้องแปลสระที่สุดอาจเป็น โอ จึงเป็นจริงเป็น โมมนมดตน มโนมุรา อโยมุตา ข. คำพ้ำพรามโมกลเป็นตัน เชนหรือสมาลำคำอื่น ๆ ให้ปลอดสระที่สุดศัพท์เป็น โอ เช่น มโนมุตา มโนมุรา อโยมุตา แต่ว่า มนมดตน อยาแหง นี้ ห้ามแปลสระที่สุดเป็น โอ ก. บทบทาน บริญจาน บริอสนา บทเหล่านี้ ท่านกำหนดให้ลง ยุ อาคมเหนือด ถ้าไม่ลง ยุ อาคมอ่าวว่าประกอบผิดหลักไวยากรณ์ รวมทว่า บริญโกโต อุปบริฑิต แม้จะมี ปริเป็นนาหนหน้า ท่านกำหนดห้ามลง ยุ อาคม ข. เมื่อมีสระอยู่หลัง สระหน้าเป็น โอ, อุ ให้แปล โอ, อู เป็น ? และมีสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือ สระ โ อ นั้นเป็น โอ ของ โก โจ โย โต เท่านั้น 19. สระอยู่หลังแปลนิคิดเป็น ม และ ท ได้บ้าง คำอธิบายเพิ่มเติมก็ถูกต้องคือข้อใด? ก. การจะเปลี่ยนเป็น ม จะต้องเป็นนิคิดของ ย, ต, ต, ต ศัพท์เท่านั้น ข. การจะเปลี่ยนเป็น ท จะต้องเป็นนิคิดของ ย, ต, ต ศัพท์เท่านั้น ค. การจะเปลี่ยนเป็น ม จะต้องสระระลานเสียก่อน ง. การจะเปลี่ยนเป็น ท จะต้องสระหลังเสียก่อน 20. ย อักษรอยู่หลัง ให้เปลี่ยนเป็นนิคิดดัง ย อักษร เป็น ณ คำอธิบายเพิ่มเติมก็ถูกต้องคือข้อใด? ก. นิคิดที่จะเปลี่ยนกับ ย นี้ ต้องเป็นนิคิดที่อยู่กับ ส ย เท่านั้น ข. นิคิดที่จะเปลี่ยนกับ ย นี้ ต้องเป็นนิคิดที่อยู่กับ ส ย เท่านั้น ค. นิคิดจะต้องอยู่หน้าสระเท่านั้น ง. นิคิดจะต้องมีพัญญาชน ทั้ง ๒ ตัวเท่านั้นอยู่หลัง