ข้อความต้นฉบับในหน้า
อังสเกต ถ้าสะหลาดเป็นอิวันดิน คือ อิ, อิ, ไอไม่แปลง อิก เป็น อพมา ไม่แปลง อิ, อิ, เป็น อุษณ ฯได่ เช่น ดิยุง อัก+อิจิด เป็น อิก+อิจิด อิซ+อิจิด เป็น อิอิ+อิริด เป็น อิอิ+อิริด เป็น อิอิ+อีริกิ เป็น อิอิ+อิริกิ แยกพยัญชนะออกจากสระ ตัวย่อน ดึงเป็น ติ+อุริด ติว+อุริด ตุ+อุริด แยกพยัญชนะออกจากสระ ตัวย่อ+อุริด แยกพยัญชนะออกจากสระ ตัวยอ+อุริด ลบสระหน้า คำอ่อน+ อนุติ นำพยัญชนะประกอบสระหลัง ตัวย่อ+ อนุติ เช่น ทิว+อู่ตี เป็น ทิว+อู่ตี ติว+อูติต ตู+อูติต คำพยัญชนะประกอบสระหลัง คำอ่อน+ อนุติ เช่น กิฎฐานอธิ เป็น กิฎฐานอธิ สัมมา+อาสนะ เป็น สัมมา+อาสนะ เป็น สัมมา+อาสนะ เป็น สัมมา+อาสนะ เป็น สัมมา+อาสนะ เป็น สัมมา+อาสนะ เพราะมีสระอยู่หลังสามารถกล่อนคำแหล่งได้ คือ อู มุนุ นุรุ (พ) พยัญชนะ อาคมในวาจาพระสนิ เพราะอาศัยสระเป็นเครื่องหมายอย่างจิ่งลงพยัญชนะอาคเน ส้นได่ ถ้ามีสระเป็นเครื่องหมายอย่างจะไม่ได้ อาคมแต่ตัววิธีรต่างกันดังนี้¨ ย อาคม a) ส่วนมากจะหลังจะเป็น อิ. และ อี อักษรให้ลง ย อาคม ได้ง่าย เช่น ยกา+อิ เป็น ยฤิย ยกา+ออ เป็น ยฤิว ม+อิฑ เป็น มฤิฑ ม+อว เป็น มฤว ติ+อิ็ท เป็น ติย้ำ ติ+อว เป็น ติยว พุทธน+อร อยเป็น พุทธาเวย ย ถ้ามี ว. ปรี.นิ เป็นต้นอยู่หน้า สระอยู่หลัง ให้ลง ย อาคม ได้บ้าง เช่น ว+อุณาาน เป็น วญุนาน ว+อากิส เป็น วิยากิส ปรี+อาณุฒ เป็น ปรีนิยม ตี+อาทิ เป็น ตียริต ปร+อานุฒ เป็น ปรียมันส์ ปรี+อาวา เป็น ปรีอาวา