ข้อความต้นฉบับในหน้า
การพิจารณาตามด้านนอกทางพระพุทธศาสนาฝายใต้ในช่วง 200-300 ปีหลังพุทธปรินิพพน9 นิยายหิงสกะและวัจฉปุตตกะสองนิยายนี้ได้แยกตัวออกมาจากเวรวาท จากนั้น นิยายสัฟพิตตกะ11 และนิยายธรรมคุตตกะได้แยกออกมาจากนิยายหิงสกะ ดังนั้น หาก10ในคัมภีร์กวัดถุตวรรคกาดับแปลของ มจร แปลไว้ดังนี้ในคัมภีร์ที่ 2 นั้นนั้นและ อาจริยวาทะทั้ง 2 คือ มหิสาระและวัจฉปุตตกะ เกิดขึ้นโดยแตกมาจากเวรวาท...ในคัมภีร์ที่ 2 นั้นนั้นแนะแห่งอารียวาทะและธรรมคุตตกะเกิดขึ้นโดยแตกออกมาจากมหิสาราวกอีก (อจ.ปณจ.อ.10 แปล.มจร.2556)ในคัมภีร์กวัดถุตวรรคฉบับแปลของ มจร มีคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องการแตกนิยายไว้ในบทนำ หน้าที่13 โดยกล่าวไว้ดังนี้ต่อมา เมื่อประมาณ พ.ศ. 200 ได้มีภิกษุผู้นิยมฝ่ายอาจารยวาทที 2 พวกแยกตัวออกจากคณะสงฆ์เดิม (เวรวาท) คือ (1) นิยายมหิสาระ(2) นิยายวัจฉปุตตกะ และมีนิยายใหม่แตกแยกออกไปตามลำดับอีก 9 นิยาย...ประเด็นเกี่ยวกับตัวเลข 200 นี้ มจร ใช้ว่า คตวรรณที่ 2 หมายถึง พุทธ-ศวรรควรรคที่ 2 กล่าวคือ ในช่วงเวลาหลังจากพุทธปรินิพพาน 100-200 ปีส่วน มจร ใช้ว่า "เมื่อประมาณ พ.ศ. 200" หรือ "นิยายอาจริยวาททีแตกไปจากเวรวาท ครั้งที่ 2 พ.ศ. 200" สำหรับ Mitomo เห็นว่า การแตกครั้งที่ 2 นี้อยู่ในช่วงหลังพุทธปรินิพพาน 200-300 ปี จากพิจารณาข้อมูลดังต้น คล้ายกับมีความคิดเห็นต่างกันออกไปในแง่ตัวเลข 200 แต่อย่างใดตามหากกล่าวตามคัมภีร์กวัดถุตวรรคกานิยายทั้ง 18 นิยายต้องดำเนินขึ้นแล้วก่อนสมยพระเจ้าอโศกที่อยู่ในพุทธศตวรรษที่ 3 ดังนั้นหากพิจารณาข้อมูลทั้งสามฝ่ายข้างต้นอีกครั้งในแง่ของการสรุปผลคื อ มีการแตกนิกายครบทั้ง 18 นิยายก่อนพระเจ้าอโศกครองราชย์แล้ว ซึ่งในประเด็นนี้ทั้งสามฝ่ายไม่มีความเห็นแตกต่างกัน (ผู้เผยแพร่) ดูในกรณีที่ 4 ประกอบ