การตีความและการวิเคราะห์ในคัมภีร์ทธาวัถถ์ การกำเนิดนิกายสรวาสติวาท (1) หน้า 23
หน้าที่ 23 / 35

สรุปเนื้อหา

บทความนี้สำรวจการตีความและการวิเคราะห์ในคัมภีร์ทธาวัถถ์ โดยเน้นที่ความแตกต่างของความคิดเห็นระหว่างฝ่ายเหตุและสภาวะ การศึกษาเฉพาะในคัมภีร์นี้ช่วยให้เข้าใจความละเอียดอ่อนของเนื้อหาและบริบทในอาสวกา ในด้านการทำความเข้าใจทั้งสองฝ่าย ควรใช้หลักฐานจากหลายแหล่งเพื่อหลีกเลี่ยงความคลาดเคลื่อนในการวิเคราะห์ และเสนอแนะให้ขยายการวิจัยในประเด็นทั้งสองฝ่ายเพื่อสร้างความเข้าใจที่ครบถ้วนมากขึ้น สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ dmc.tv.

หัวข้อประเด็น

-การตีความในคัมภีร์
-ความคิดเห็นฝ่ายเหตุ
-การวิเคราะห์ด้านสภาว
-การศึกษาอาสวกา
-การวิจัยและการค้นคว้าในพระพุทธศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

(เชิงอรรถ ต่อจากหน้าที่แล้ว) (เชิงอรรถ ต่อจากหน้าที่แล้ว) หากกล่าวโดยสรุปในเบื้องต้น เราสามารถเข้าใจการตีความของทั้งสองฝ่ายในอาสวกา โดยเข้าใจคำนของฝ่ายเหตุจากคำตอบในคัมภีร์ทธาวัถถ์อธิบายความในประเด็นนี้ ดังนั้นจึงสามารถเข้าใจย้อนกลับไปยังบริบทเดิมที่ปรากฎในอาสวกา ของคัมภีร์ทธาวัถถ์ ส่วนทางด้านสภาวที่เราเข้าใจความคิดของพระกลุ่มนี้จากคำถามในคัมภีร์ทธาวัถถ์ แต่อย่างไรก็ดีตาม หากพิจารณาประเด็นคัมภีร์ทธาวัถถ์ เพียงแค่ในคัมภีร์ทธาวัถถ์ และคัมภีร์ทธาวัถถ์กว้างกว่าคัมภีร์ทธาวัถถ์ โดยปรากฎการน้อมขออภัยของข้อเท็จจริงในคัมภีร์อธิรรมมหาวารามวาร่วมพิจารณา อาจเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในการวิเคราะห์ความเห็นของฝ่ายเหตุจาก เพียงแต่ชื่อกลุ่มที่ได้ยังกันในคัมภีร์อธิรรมมหาวารามเป็นกลุ่มวิญญูสวรุนและอาสวกา ส่วนในคัมภีร์รกษฎุฏ ถอดความในอาสวะก็คือเป็นเหตุจากเหตุ และสภาวที่แต่ อย่างไรก็ดีตาม ก็คงจะเห็นคณะของฝ่ายต่าง ๆ ผ่านการวิเคราะห์ทำให้เข้าใจ ในมุมมองของแต่ละฝ่ายได้ชัดเจนขึ้น โดยสินัษฐานว่า เป็นประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการเรียงชื่อหมวดธรรมที่บางกลุ่มปรารถนาให้เรียกวว่า อาสวะ 4 แต่คิวว่ากระคือ สวาสวติวาและสภาวาที่มีคำที่จะตัดต่างออกไปตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ดังนั้น ผู้แปลน่าวในประเด็นในคัมภีร์รกษฎุฏควรมีความอยาก คำปล ที่ต้องอาศัยการตีความมีในความคิดเห็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น หากจะเปล่ให้เข้าใจต้องเข้าใจความเห็นทั้งสองฝ่าย เช่นในกรณีนี้คือ ฝ่ายเหตุ-วาทและสภาวต์ โดยนำข้อมูลทั้งสองฝ่ายในประเด็นนี้เกี่ยวข้อง ซึ่งปรากฎในแหล่งหลักฐานต่าง ๆ โดยเฉพาะคัมภีร์รัฐุมภูมิที่สามารถค้นคว้าได้ มาพิจารณาสอบทาน แต่หากไม่พบก็ต้องอาศัยประเด็นเดียวกันโดยผ่านทัศนาของฝ่ายอื่น เพื่อก่อให้เกิดกระบวนการสอบทานทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ควรใช้เพียงหลักฐานจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพียงข้างเดียว หากทำเช่นนี้ได้ อย่างน้อยสุดความคลาดเคลื่อนในการวิเคราะห์จะลดลง และจะทำให้เข้าใจความเห็นของทั้งสองฝ่ายในประเด็นนั้น ๆ เป็นการสนับสนุนในภายหลังการแปลมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้น ควรส่งเสริมให้เกิดการวิเคราะห์และใส่ข้อมูลเพิ่มเต็มในประเด็นนั้น ๆ โดยอยู่ในบริเวณอรรถหรือความคิดเห็น เพื่อกระตุ้นให้เกิดการค้นคว้าต่อยอดเพิ่มขึ้นในนักวิชาการต่อไป (ผู้แปล)
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More