ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรรมธรรม
วิเคราะห์วิชาการทางพระพุทธศาสนา ปีที่ 5 ฉบับที่ 1 (ฉบับรวมเล่มที่ 8) 2562
กาย มีสุขิติกับอยู่ตลอดเวลา เมื่อฉะนั้นจะรับปรับสมดุล มีความว่างในจิตเกิดขึ้น จิตที่ว่างจากนิวรณ์ธรรมทั้งหลายเป็นจิตที่สมดุล ด้วยเหตุนี้จึงต้องอาศัยเครื่องมือและวิธีการทางสมถภาวนามู่ฐานเป็นวิธีช่วยเหลือ ดังนี้
1. การใชัสมภภัสฐานสร้างความสมดุลในจิต ได้แก่ การฝึกอบรมจิตให้เกิดความสงบ ตั้งมั่นเป็นสมถีถึงขึ้นได้ผ่านระดับต่างๆ การที่จิตดำรงอยู่ในอารมณ์ใด อารมณ์หนึ่งจนเป็นเอกกัคคตาจิต ยอมทำให้ดีดผ่องใส สมดุล คือ ไม่ตกอยู่ภายในอำนาจของนิวรณ์ในพระพุทธศาสนาได้แสดงลักษณะของจิติวา ตั้งแต่เบื้องต้น คือจิตสงบเป็นอุปจารสมาธิ อัปปนาสมาธิ ผ่านกระบวนการแห่งงานไปจนถึงที่สุดคือการบรรลุมรรคผล ก็เพื่อสื่อแสดงว่า จิติวาเกิดในการสร้างความสมดุลแห่งจิตนี้นำไปสู่การเข้าถึงความว่างแห่งนิรันดร์ได้ดังข้อคำในพระไตรปิฎกว่า
จิตติวิปากเป็นใดนะ? ภิกษุผู้รวบรวมสมาธิ มิติตั้งสังกัดจากนิวรณ์บรรลุคุณสมบัติสมาธิ เป็นจิตสังกัดจากอิตติ บรรลุจตุสมาธิ มีจิตสังกัดจากสุขและทุกข์...เป็นสภาวะมีบุคคล...เป็นอนาคมีบุคคล...เป็นอรหันตบุคคลมีจิตสังกัดจากปราคา อบปราคา มานะ อวิชา จะ อวิชชา มานะวัส ย่อความวัส อวิชชานสัส ก็สถิตตั้งอยู่ในเหล่าเดียวกันกับปราคาเป็นต้นนั้น และจากส่งจากนิพนธ์ทั้งปวงในภายนอกนี้ชื่อว่าจิตติวิปา19
จะเห็นได้ว่า ลำดับแห่งการปรับสมดุลจิตได้ นั้นนำไปสู่พลังบวกของจิตอย่างน่าอัศจรรย์ จิตที่ไม่เคยได้รับความสงบจึงไม่อาจทำถึงการ
_____________________________________________________
19 ขม. 29/33/32-33