ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2554
Case Study กรณีศึกษากฎแห่งกรรม
มหาเสนาบดี ผู้ยิ่งใหญ่ ตอนที่ 9
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะข่าวที่สร้างความคึกคักโกลาหลให้กับเหล่านักเรียนเตรียมทหารก็คือข่าวการเสด็จมาเยี่ยมชมการฝึกนายทหารรุ่นใหม่ของพระราชาและพระราชโอรส
สำหรับข่าวที่สร้างความคึกคักโกลาหลให้กับเหล่านักเรียนเตรียมทหารทุกคนในโรงเรียนฯ ไม่เว้นแม้แต่ท่านมหาเสนาบดีนั้น ก็คือข่าวการเสด็จมาเยี่ยมชมการฝึกนายทหารรุ่นใหม่ของพระราชาและพระราชโอรส พร้อมด้วยเหล่าเสนาอำมาตย์และนายทหารชั้นผู้ใหญ่นั่นเอง ซึ่งนอกจากท่านมหาเสนาบดีจะรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้พบกับพระราชาและพระราชโอรสแบบตัวจริงเสียงจริงแล้ว ตัวท่านเองยังรู้สึกเหมือนมีแรงกดดันแบบลึกๆ ที่ปะทุ อยู่ในดวงใจของท่านอยู่ตลอดเวลาท่านตั้งใจที่จะแสดงความสามารถให้ดีที่สุดเพื่อสร้างความภาคภูมิใจและไม่ทำให้วงศ์ตระกูลต้องมาเสียชื่อเสียง
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ท่านมหาเสนาบดีมีความรู้สึกเช่นนี้ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะหนึ่งในนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่ตามขบวนเสด็จมาพร้อมกับพระราชาในครั้งนี้ ก็คือคุณพ่อของท่านมหาเสนาบดีนั่นเอง ดังนั้นในวันที่พระราชาและพระราชโอรสเสด็จมาเยี่ยมชมการฝึกของเหล่านักเรียนเตรียมทหารในครั้งนี้ ตัวท่านจึงมีความตั้งใจที่จะแสดงความสามารถให้ดียิ่งกว่าดีที่สุด เพื่อที่ตัวท่านจะได้สร้างความภาคภูมิใจและไม่ทำให้วงศ์ตระกูลต้องมาเสียชื่อเสียงเพราะตัวท่าน ด้วยเหตุดังที่ได้กล่าวมาแล้วนี้เองท่านมหาเสนาบดีจึงเร่งฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วงแบบสุดๆ ไปเลยขบวนเสด็จอันยิ่งใหญ่ของพระราชาและพระราชโอรสที่ประกอบไปด้วยเหล่าเสนาอำมาตย์และข้าราชการทหารชั้นผู้ใหญ่
และเมื่อวันที่ทุกคนรอคอยมาถึง ขบวนเสด็จอันยิ่งใหญ่ของพระราชาและพระราชโอรส ที่ประกอบไปด้วยเหล่าเสนาอำมาตย์และข้าราชการทหารชั้นผู้ใหญ่ ก็ได้เสด็จมาถึงโรงเรียนเตรียมทหารแห่งนั้น ทันทีที่พระราชาและพระราชโอรสเสด็จประทับนั่งที่ “พระที่นั่งชั้นบนสุด” เพื่อรับชมการฝึกซ้อมของเหล่านักเรียนเตรียมทหารแล้ว การแสดงชุดที่หนึ่งของนักเรียนเตรียมทหารก็เริ่มต้นขึ้น ซึ่งการแสดงชุดนี้จะแสดงถึงความเป็นระเบียบพร้อมเพรียงกัน ผ่านบทฝึกต่างๆ ที่ได้ศึกษาเรียนรู้มา ไม่ว่าจะเป็น การเดินสวนสนาม, การแปรแถว, การตั้งแถว, รวมไปถึงยุทธวิธีในการรบ, การจัดกระบวนทัพ และการต่อสู้ต่างๆ เป็นต้นนักเรียนเตรียมทหารโชว์ฝีไม้ลายมือได้อย่างไร้ที่ติเลยทีเดียว
จนกระทั่งมาถึงช่วงเวลาสำคัญซึ่งถือว่าเป็นช่วงพิเศษสุดของงานนี้เลยก็ว่าได้ นั่นก็คือช่วงโชว์ฝีมือของนักเรียนเตรียมทหาร ซึ่งก็มีทั้งการแสดงความสามารถและการแสดงยุทธวิธีในการรบพุ่งในรูปแบบพิเศษต่างๆ รวมถึงการแปรขบวนและการจัดทัพแบบขั้นเทพที่หาชมได้ยากอีกด้วย ซึ่งกลุ่มนักเรียนเตรียมทหารนี้ก็โชว์ฝีไม้ลายมือได้อย่างไร้ที่ติเลยทีเดียวท่านมหาเสนาบดีได้แอบมองพระราชโอรส และเกิดความรู้สึกชื่นชมเลื่อมใสในพระราชโอรสขึ้นมาในทันที
ซึ่งในขณะนั้นนักเรียนเตรียมทหารกำลังแสดงความสามารถกันแบบจัดเต็มอยู่ ณ เบื้องพระพักตร์ของพระราชาและพระราชโอรสอยู่นั้น ท่านมหาเสนาบดีก็ได้แอบมองและโฟกัสไปที่พระราชโอรส ซึ่งกำลังประทับนั่งอยู่ในพระที่นั่งชั้นบนสุดแบบตั้งใจ ทันทีที่ท่านมหาเสนาบดีได้เห็นพระราชโอรสจากระยะไกล ท่านมหาเสนาบดีก็เกิดความรู้สึกชื่นชมและเลื่อมใสในพระราชโอรสขึ้นมาในทันที ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะผิวพรรณวรรณะของพระองค์ทรงมีความผ่องใสแลดูเปล่งปลั่งอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งในทุกอิริยาบถของพระองค์ยังทรงดูสง่างาม, และดูเป็นที่ตั้งแห่งความศรัทธาเกินวัยเป็นอย่างมากอีกด้วยท่านมหาเสนาบดีได้สังเกตสีหน้าและแววตาของพระราชโอรสที่ดูเรียบเฉยไม่แสดงออกถึงอาการยินดียินร้ายใดๆ
และด้วยความที่ท่านมหาเสนาบดีมีอุปนิสัยเป็นหนุ่มช่างสังเกตโดยปกติ โดยเฉพาะกับพระราชโอรสที่ท่านให้ความสนใจเป็นพิเศษแล้ว ท่านย่อมไม่พลาดในทุกรายละเอียดอย่างแน่นอน ดังนั้นเมื่อท่านมหาเสนาบดีได้สังเกตลึกไปถึงสีหน้าและแววตาของพระราชโอรสแล้ว ท่านก็พบว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้ตัวท่านต้องสะดุดใจ นั่นก็คือไม่ว่าบรรยากาศโดยรวมในสนามฝึกจะสร้างความตื่นเต้น, ฮือฮา และเร้าใจแค่ไหนก็ตาม แต่สีหน้าและแววตาของพระราชโอรส กลับยังคงดูเรียบเฉยและไม่แสดงออกถึงอาการยินดียินร้ายใดๆ กลับนิ่งสงบราวกับรูปสลักท่านมหาเสนาบดีทำได้แค่เพียงตั้งคำถามอยู่ภายในใจว่าทำไมความรู้สึกในดวงตาของพระราชโอรสจึงดูเย็นชาเช่นนั้น
เมื่อท่านมหาเสนาบดีเห็นเช่นนั้นท่านก็ไม่มองผ่าน ท่านกลับยิ่งพยายามค้นและมองเข้าไปในความรู้สึกเพื่อให้เห็นความหมายในแววตาของพระราชโอรสให้ได้ แต่ไม่ว่าท่านมหาเสนาบดีจะพยายามค้นหาเท่าไหร่ก็ไร้ซึ่งคำตอบ จากเหตุการณ์นี้เองจึงกลายเป็นเงื่อนปมแห่งความสงสัยที่ติดค้างอยู่ในใจของท่านมหาเสนาบดีว่าทำไมความรู้สึกในดวงตาของพระราชโอรสจึงดูเย็นชาเช่นนั้น พระราชโอรสทรงมีเรื่องอะไรที่ไม่สบายใจหรือ แต่อย่างไรก็ตามในตอนนี้ท่านมหาเสนาบดีก็ทำได้แค่เพียงตั้งคำถามอยู่ภายในใจของท่านเท่านั้น
พระราชโอรสเสด็จลงมาตรวจเยี่ยมแถวของนักเรียนเตรียมทหารด้วยตัวของพระองค์เอง
หลังจากที่นักเรียนเตรียมทหารทุกคนได้แสดงยุทธวิธีการรบกันอย่างสุดฝีมือแบบจัดเต็มในทุกกระบวนท่าแล้ว ก็ปรากฏว่าการแสดงในครั้งนี้ได้สร้างความพึงพอพระราชหฤทัยให้กับพระราชาเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งก่อนที่พระราชาจะเสด็จกลับ พระองค์ก็ทรงพาพระราชโอรสเสด็จลงมาตรวจเยี่ยมแถวของนักเรียนเตรียมทหารด้วยตัวของพระองค์เอง
ท่านมหาเสนาบดีมีความรู้สึกภาคภูมิใจและปลื้มปีติใจมากๆที่ได้รับคำชมจากพระราชา
ซึ่งในขณะที่พระราชาและพระราชโอรสกำลังเสด็จตรวจเยี่ยมแถวของนักเรียนเตรียมทหารอยู่นั้น พระราชาก็ทรงกล่าวคำชื่นชมกับนักเรียนเตรียมทหารบางคน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีท่านมหาเสนาบดีของพวกเรารวมอยู่ด้วย ซึ่งก็ทำให้ท่านมหาเสนาบดีมีความรู้สึกภาคภูมิใจและปลื้มปีติใจมากๆ ที่ได้รับคำชมจากพระราชา เพราะสิ่งเหล่านี้ถือเป็นเกียรติประวัติและเป็นที่เชิดหน้าชูตาให้กับคุณพ่อของท่านผู้เป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่ตามเสด็จพระราชามาในครั้งนี้ด้วยท่านมหาเสนาบดีได้มีโอกาสสนทนาและเกิดความคุ้นเคยกับพระราชโอรสในระดับหนึ่ง
ภายหลังจากพระราชาเสด็จกลับไปแล้ว นักเรียนเตรียมทหารชุดพิเศษทุกคนก็ทำการฝึกฝนกันอย่างต่อเนื่องและหนักหน่วงตามหลักสูตรพิเศษที่ทางกองทัพกำหนดมา และในระหว่างที่ทำการฝึกบางครั้งพระราชาและพระราชโอรสก็ได้เสด็จมาทอดพระเนตรการฝึกของนักเรียนเตรียมทหารชุดพิเศษกลุ่มนี้เป็นการเฉพาะส่วนพระองค์อีกหลายครั้ง จนทำให้ท่านมหาเสนาบดีได้มีโอกาสสนทนาและเกิดความคุ้นเคยกับพระราชโอรสในระดับหนึ่งทีเดียว
ท่านมหาเสนาบดียังคงสังเกตเห็นพระราชโอรสยังคงมีความรู้สึกนิ่งเฉยต่อการฝึกของนักเรียนเตรียมทหารชุดพิเศษ
แต่ถึงกระนั้นท่านมหาเสนาบดีก็ยังคงสังเกตเห็นว่า “พระราชโอรสยังคงมีความรู้สึกนิ่งเฉย ต่อการฝึกของเหล่านักเรียนเตรียมทหารชุดพิเศษ” ซึ่งท่านมหาเสนาบดีก็ยังมองพระราชโอรสไม่ออกว่า ทำไมพระราชโอรสจึงไม่ยินดียินร้ายในสิ่งเหล่านี้เลยส่วนว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่น่าตื่นเต้นและน่าติดตามขนาดไหนนั้น เราคงจะต้องอดใจรอรับฟังกันต่อใน ตอนที่ 10
กรณีศึกษากฎแห่งกรรมจากชีวิตจริง (Case study in real life)
บุคคลที่ปรากฏในเรื่องราวต่อไปนี้ มีตัวตนจริงในปัจจุบัน ประสบชะตากรรมขึ้นลงตามกระแสของวัฏฏะและกฎแห่งกรรม (ชมตัวอย่างบทสัมภาษณ์จากรายการชีวิตในสังสารวัฏ) ผู้อ่าน-ผู้ชมก็อย่าเพิ่งเชื่อหรือปฏิเสธในทันที ควรศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แล้วค่อยนำไปเป็นอุทธาหรณ์ในการดำเนินชีวิตต่อไป
"วิชชาธรรมกาย" เป็นความรู้ดั้งเดิมในพระพุทธศาสนา เมื่อปฏิบัติแล้วสามารถไปรู้ไปเห็นเรื่องราวกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายในภพภูมิต่างๆ ตรงตามพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก วิชชาธรรมกายจึงเป็นหลักฐานยืนยันการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทันสมัยตลอดกาล (อกาลิโก)
http://goo.gl/huf8B