ข้อความต้นฉบับในหน้า
44 พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนไว้ว่า ชีวิตของคนเราไม่ได้ยาว
เป็นวัน เป็นเดือน เป็นปี เป็นสิบปี ยี่สิบปี ร้อยปี อย่างที่ใครคิดหรอก
อายุจริง ๆ ของมนุษย์ก็แค่ช่วงหายใจเข้า หายใจออกเท่านั้น
ตรงกันข้าม ถ้าแม่กินเหล้า สูบบุหรี่ รวมทั้งโดนพ่อเตะมาด้วย แม่ก็บอบช้ำ ลูกก็ยิ่งช้ำชอก
หนักเข้าไปอีก ดังนั้นแม่จะต้องถนอมตัวเองให้มากที่สุด แล้วก็อยู่ในบุญให้มากที่สุดเท่าที่จะมาก
ได้ เพื่อเป็นหลักประกันให้แม่สุขภาพดี โอกาสที่ลูกจะเจ็บไข้ได้ป่วยหรือตายกะทันหันตอนคลอด
ก็ยากหน่อย แต่ว่าจะประกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่ ไม่มีใครตอบได้ เพราะไม่มีอะไรต้านทาน
แรงกรรมได้ ถ้าเด็กคนนี้มีกรรมหนัก ๆ ข้ามภพข้ามชาติมา เช่น เคยฆ่าสัตว์ที่เพิ่งจะเกิดใหม่ ๆ
หรือเคยฆ่าคนที่เขาตั้งครรภ์อยู่ ถึงคราวจะเกิด ก็จะเจอบ้าง แม้ไม่มีใครฆ่า ก็มีเหตุให้ตาย
ปุบปับได้เหมือนกัน
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนไว้ว่า ชีวิตของคนเราไม่ได้ยาวเป็นวัน เป็นเดือน เป็นปี เป็น
สิบปี ยี่สิบปี ร้อยปี อย่างที่ใครคิดหรอก อายุจริง ๆ ของมนุษย์ก็แค่ช่วงหายใจเข้า หายใจออก
เท่านั้น คนเราหายใจเข้าทีหนึ่งยาวเท่าไร หายใจออกทีหนึ่งยาวเท่าไร นั่นคืออายุจริงของมนุษย์
แล้วมนุษย์ก็ต่ออายุตนเองเหมือนต่อวีซ่า คือ ต่อเป็นช่วง ๆ ช่วงละลมหายใจเข้าออก นี่คือ
ข้อแท้จริงของชีวิต
ความตายไม่มีเครื่องหมายบอกให้รู้ล่วงหน้า เห็นกันตอนเช้า ตอนสายตายก็มี เห็นกันตอนสาย
ตอนบ่ายตายก็มี ตอนบ่ายเพิ่งคุยกันอยู่ ตอนเย็นตายเสียแล้วก็มี เห็นกันตอนเย็น ตกกลางคืน
โทรศัพท์กรี๊งกร๊างมาบอกว่าตายเสียแล้ว ไม่มีเครื่องหมายบอกให้รู้ล่วงหน้า จะตายเมื่อไรขึ้นอยู่
กับบุญในตัว หมดบุญเมื่อไรก็ตายเมื่อนั้น เหมือนกับตะเกียง น้ำมันหมดก็ดับวูบไป แต่น้ำมันเรา
ยังเอาเครื่องไปชั่ง ไปตวง ไปวัดได้ว่ายังมีอยู่กี่ลิตร กี่ซี.ซี. ส่วนบุญในตัวมีเท่าไรหาเครื่องวัดไม่ได้
เพราะฉะนั้น จะตายเมื่อไรก็ไม่รู้ จะตายที่ไหนก็ไม่รู้ บางคนอุตส่าห์เตรียมโลงเอาไว้อย่างดี แต่ไป
ตายในต่างประเทศ ผลสุดท้ายโลงที่เตรียมไว้ที่เมืองไทยก็ไม่ได้ใช้
เมื่อเรารู้อย่างนี้ เราก็เล่าให้คนไข้ฟัง จะโดยทางตรงหรือทางอ้อมก็ได้ แต่ไม่ต้องจำเพาะ
เจาะจงไปถึงเด็กที่จะเกิดว่าจะตายหรือไม่ตาย แต่คุยกันเรื่องธรรมะให้อุ่นใจ ในเวลาเดียวกันก็
บอกให้เขารู้จักความจริงของชีวิตว่า ชีวิตนี้เป็นทุกข์ ทุกข์เพราะเกิด แก่ เจ็บ ตาย ซึ่งเป็นของ
ประจำโลก ค่อย ๆ คุยให้เขาซึมซับไป ยิ่งกว่านั้น คุณหมอควรแนะนำคนไข้ให้สวดมนต์ ไหว้พระ
ตักบาตร ทำบุญทำทาน ปล่อยสัตว์ ปล่อยปลา ให้ความรู้ทางธรรมแก่เขาอย่างเต็มที่ แล้วใน
ที่สุดถ้าลูกของเขาคลอดออกมาแล้วตาย เขาก็จะยอมรับได้ว่าขึ้นอยู่กับบุญกรรมของเด็กด้วย
แม่ก็ประคองครรภ์มาสุดฝีมือ หมอก็ดูแลรักษาสุดฝีมือแล้ว แต่กำลังบุญของเด็กมีเท่านั้น จะไป
โทษใครได้