ข้อความต้นฉบับในหน้า
หรือพูดอีกนัยหนึ่ง คือให้งดเว้นจากบาปทุกชนิด ให้สร้างแต่บุญกุศล แล้วก็หมั่นเจริญ
สมาธิภาวนาเพื่อให้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายในตัวให้ได้ เพราะพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด
สิ่งอื่นที่จะประเสริฐยิ่งไปกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว เมื่อเราเข้าถึงแล้วก็จะพบกับความสุขที่แท้จริง จะรู้สึก
อบอุ่นใจ ปลอดภัย แล้วยังสามารถปิดอบาย ไปสวรรค์ มีสุขได้ในปัจจุบันทันทีที่เข้าถึง
และสุดท้าย พระพุทธองค์ก็ทรงให้วิธีการในการที่จะออกไปทำหน้าที่เผยแผ่ โดยให้ทำตัว
ให้เป็นที่ตั้งแห่งศรัทธา และเป็นต้นบุญต้นแบบที่ดีแก่ชาวโลก ทรงให้แนวทางดังต่อไปนี้ คือ
อนูปวาโท ไม่ให้ไปว่าร้ายใคร หรือไปโต้เถียง ทะเลาะเบาะแว้งกับใคร
อนูปฆาโต ไม่ให้ไปทำร้ายใคร หรือไปข่มขู่บังคับให้ใครเขามาเชื่อเรา แต่ต้องแสดงด้วยเหตุผล
จนทำให้เขาเข้าใจและให้โอกาสเขาได้ตรองตามด้วยสติปัญญาจนเกิดความศรัทธาด้วยตัวของเขาเอง
ปาติโมกฺเข จ สวโร ให้สำรวมในศีลและมารยาท จะได้ไม่ไปเบียดเบียนใคร หรือทำให้ใคร
เขาเดือดร้อน อีกทั้งยังเป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสอีกด้วย
มตฺตญฺญุตา จ ภตฺตสุม ให้รู้จักประมาณในการบริโภคแต่พอดี เพื่ออนุเคราะห์การประพฤติ
พรหมจรรย์
ปนฺตญฺจ สยนาสน์ ให้อยู่ในเสนาสนะที่สงัด ที่เป็นสัปปายะ เอื้ออำนวยต่อการประพฤติปฏิบัติ
ธรรม และประการสุดท้าย
อธิจิตฺเต จ อาโยโค ให้หมั่นประกอบความเพียรในอธิจิต คือ นำจิตเข้าสู่ปริมณฑลที่ศูนย์กลาง
กาย ให้ใจหยุดนิ่ง ละเอียด บริสุทธิ์ยิ่ง ๆ ขึ้นไป
เอต์ พุทฺธาน สาสน์ นี้เป็นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย
ที่กล่าวมาทั้งหมดโดยสรุปนี้ เป็นพุทธโอวาทที่สำคัญที่สุด ที่เราและชาวโลกจะต้องนำไป
ปฏิบัติเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า รวมทั้งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง คือ
ทำให้บรรลุพระนิพพานได้
การแสดงโอวาทปาฏิโมกข์นี้ มีปรากฏขึ้นในทุกยุคทุกสมัยที่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบังเกิด
ขึ้นในโลก และไม่ว่าจะมาตรัสรู้พระองค์ก็ตาม ทุก ๆ พระองค์ก็จะทรงสั่งสอนตรงกันหมดเหมือน
เป็นเนติแบบแผนเดียวกัน ดังนั้นโอวาทปาฏิโมกข์จึงเป็นหลักธรรมที่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา
และเป็นหลักปฏิบัติที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อมวลมนุษยชาติ เพราะสามารถสร้างสันติสุขที่แท้จริง
และสันติภาพโลกให้บังเกิดขึ้นได้
ในวันนี้ เราก็ได้มาทบทวนโอวาทปาฏิโมกข์และได้ปฏิบัติบูชา แล้วจากนั้นก็จะได้ร่วมกัน
จุดมาฆประทีปถวายเป็นพุทธบูชา รวมทั้งบูชาแด่พระอรหันตสาวกทั้งหลายด้วย โดยเราจะเริ่ม
จุดความสว่างภายในใจของเราก่อน และเมื่อใจของเราสว่างดีแล้ว จึงค่อยมาจุดความสว่างที่ดวง
ประทีปต่อ ๆ กันไป
ซึ่งบุญจากการบูชาด้วยดวงประทีปนี้ จะทำให้เราเป็นผู้มีจักษุที่สดใส สวยงาม เราจะไม่เป็น
โรคเกี่ยวกับดวงตา และจะเป็นผู้ถึงพร้อมทั้งมังสจักษุ ทิพยจักษุ ปัญญาจักษุ สมันตจักษุ และ
ธรรมจักษุ จะทำให้มีรัศมีกายที่สว่างไสว และจะมีดวงตาเห็นธรรม สามารถหยั่งรู้ทั่วถึงธรรมของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายได้
๓๕