ข้อความต้นฉบับในหน้า
“แต่พอมีโครงการบวชอุบาสิกาแก้วเข้ามา หนูได้บวช สิ่งที่ได้จากการบวช ๑๔ วัน สามารถ
ตอบปัญหาในชีวิตของหนูได้ทุกข้อ เพราะถ้าไม่มีโครงการบวช หนูก็จะได้เรียนแค่วิชาชีพ วิชาสามัญ
และบทเรียนราคาแพงไปเท่านั้น แต่หนูจะไม่รู้หลักการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องเลยว่า เมื่อหนูออกไปแล้ว
หนูจะต้องทำตัวใหม่อย่างไร การเป็นลูกที่ดีให้พ่อแม่ภูมิใจต้องทำอย่างไร โครงการนี้สอนให้หนูรู้ว่า
เราต้องพูดดี ๆ กับพ่อแม่ เพราะที่ผ่านมาหนูไม่เคยทำดีกับท่านเลย ตอนนี้หนูอยากกราบพ่อกับแม่
มากที่สุด เพราะหนูไม่เคยกราบท่านเลย ซึ่งหนูก็จะไม่รอให้ถึงวันที่สายไปกว่านี้แล้ว
“การบวช...สอนให้หนูรู้เรื่องบุญบาป ไม่ตัดสินใจทำอะไรด้วยอารมณ์ชั่ววูบ และที่สำคัญหนู
ยังได้นั่งสมาธิ ซึ่งแรก ๆ หนูเมื่อยสุด ๆ เมื่อยจนคิดว่า อะไรเนี่ย!!? ทำไมต้องให้มานั่งทำอะไรแบบนี้
แต่พอเข้าวันที่ ๓ หนูลองนึกถึงสิ่งที่หนูชอบ คือ ส้ม และก็มองไปเรื่อย ๆ อยู่ ๆ ส้มก็ใสสว่างขึ้น
เรื่อย ๆ พอมองไปกลางส้ม หนูก็เห็นดวงแก้วผุดขึ้นซ้อน ๆ กันเข้าไป 5 ดวง พอหนูมองต่อไปเรื่อย ๆ
ก็เห็นองค์พระค่ะ หนูมีความสุขมาก ไม่น่าเชื่อว่าหนูจะได้เห็นสิ่งนี้ ขณะนั้นหนูลืมความทุกข์ทุกอย่าง
ในชีวิตที่มี รู้สึกตัวเบาอย่างกับตัวเองนอนลอยอยู่ในที่ ๆ สบายที่สุด รู้สึกอิสระแบบไม่มีอะไรมา
เหนี่ยวรั้งใจเลย มันสุขมากกว่าการถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ ๑ อีก พอหนูพบความสุขแบบนี้ หนูถึงตอบ
ได้ด้วยตัวเองค่ะว่า ทำไมหลวงพ่อถึงได้จัดโครงการบวชขึ้นมา แล้วทำไมต้องให้พวกหนูนั่งสมาธิ
แต่พอหนูได้มาบวช
หนูถึงได้รู้ว่าธรรมะเป็นสิ่งที่ดี
มีเหตุผล สามารถเอามาใช้
แก้ปัญหาชีวิตเราได้หลายอย่าง
เพราะขนาดเด็กสไปรท์อย่างหนู
ยังเปลี่ยนได้เพราะธรรมะ
เห็นองค์พระแล้วมีความสุข
มากกว่าถูกลอตเตอรี่
รางวัลที่ ๑ ค่ะ
แล้วความสุขที่เกิดขึ้นตรงนี้เอง ทำให้หนูอยากไปเปิดบ้านกัลยาณมิตร เมื่อหนูออกจากที่นี่ได้แล้ว หนู
อยากให้คุณพ่อคุณแม่และญาติ ๆ มาสวดมนต์ด้วยกัน อยากให้เรามาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยความ
อบอุ่น ความเข้าใจ โดยมีธรรมะเป็นตัวเชื่อม ก่อนหน้านี้ หนูไม่รู้เลยว่า ธรรมะจะเป็นสิ่งที่ดีถึงขนาดนี้
เพราะช่วงที่เรียนอยู่ขณะที่หนูทำค่ายพัฒนาชุมชน เพื่อนในกลุ่มก็ชวนหนูว่าลองไปพัฒนาวัดดูไหม
ลองไปวัดบ้างก็ดีนะโว้ย หนูก็รีบปฏิเสธเพื่อนกลับทันควันเลยว่า ไม่ไปหรอก เพราะรู้สึกว่าวัดไม่สะอาด