ข้อความต้นฉบับในหน้า
อาตมาได้คำสนทนาจากคนในบ้านของท่านแม้เพียง
เล็กน้อยว่านิมนต์ไปโปรดบ้านอื่นเถิด ดังนั้นอาตมา
จึงบอกว่าได้” พราหมณ์เมื่อฟังดังนั้นก็คิดว่า “สมณะ
นี้ก็ไม่ได้พูดเท็จเลย ได้แค่คำพูดทักทายยังชมเรา
แล้วถ้าได้อาหารมาบริโภคล่ะจะยิ่งชมขนาดไหน” จึง
เกิดความเลื่อมใสถวายภัตตาหารและปวารณาใส่
บาตรทุกวัน ต่อมาเขาได้เห็นอาการสงบเรียบร้อย
ของท่านก็ยิ่งเลื่อมใสหนักขึ้น จึงนิมนต์ให้มาฉันใน
บ้านทุกวัน
ศาสนทายาทผู้รอบรู้แตกฉาน
เมื่อติสสกุมารมีอายุได้ ๑๖ ปี เขาแตกฉาน
ในไตรเพท แต่ยังมิได้ศรัทธาต่อพระเถระเหมือนบิดา
เมื่อติสสะไปเรียนหนังสือกับอาจารย์ คนใช้ก็จะเอา
ผ้าขาวคลุมตั้งที่นั่งของเขาไว้ พระเถระจึงอาศัย
โอกาสนี้เพื่อจะได้สนทนากับดิสสกุมาร ท่านจึง
อธิษฐานฤทธิ์ให้ที่นั่งอื่น อย่าปรากฏให้เห็น
ยกเว้นตั้งของดิสสกุมารเท่านั้น เมื่อคนใช้ไม่เห็น
ตั้งอันอื่น จึงถวายตั้งของติสสะให้พระเถระนั่งแทน
เมื่อเขากลับมาบ้านได้เห็นพระเถระนั่งบนฝั่งของเขา
จึงแสดงอาการไม่พอใจมาก เมื่อพระเถระฉันเสร็จ
ก็เอ่ยถามขึ้นว่า “พ่อหนุ่ม เธอมีความรู้มนต์อะไรบ้าง
ติสสกุมารจึงตอบกลับว่า “ถ้าข้าพเจ้าไม่รู้ แล้วใคร
จะรู้ ก็ท่านล่ะ รู้มนต์ด้วยหรือ” “งั้นก็ลองถาม
อาตมาสิ” ติสสะถามคำถามเกี่ยวกับไตรเพทมากมาย
ชนิดที่เรียกว่ายากมาก ๆ แม้กระทั่งตนและอาจารย์
ยังไม่อาจรู้คำตอบได้
พระเถระตอบได้หมด เพราะท่านจบไตรเพท
มาก่อน แล้วถามอภิธรรมกลับไปว่า “จิตของบุคคล
ใดกำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับ จิตของบุคคลนั้นจักดับ
ไม่ใช่จักเกิดใช่หรือไม่ อีกอย่างหนึ่งจิตของบุคคล
ใดจักดับ ไม่ใช่จักเกิด จิตของบุคคลนั้นกำลังเกิด
ไม่ใช่กำลังดับใช่หรือไม่” เพียงคำถามเดียวทำให้
ติสสะถึงกับมืดแปดด้าน เขาจึงถามว่า “มนต์นี้ชื่อ
อะไรหรือ” “ชื่อว่าพุทธมนต์” “ท่านจะสอนมนต์นี้
ให้ข้าพเจ้าได้ไหม” “อาตมาจะสอนให้ได้เฉพาะคนที่
P