ข้อความต้นฉบับในหน้า
ทันโลกทันธรรม
ในซอกหินก็คงจะเริ่มผุไปแล้ว เป็นหินผุ ๆ หรือมี
ดินอยู่บ้างนิดหน่อย ไม้ต้นนี้ก็เอารากชอนไชไปตาม
ร่องหิน ค่อย ๆ ดูดสารอาหารจากหินผุ ๆ ที่เปื่อย
เป็นดินผุ ๆ แล้วนิด
ซึ่งลำบากกว่า
หน่อย
ๆ
อยู่บนดินทั่วไปมาก ฝนตกลงมาน้ำก็แทบจะไหลไป
ๆ
ๆ
หมดเหลือเก็บอยู่บ้างตามร่องหินนิดหน่อย แต่มัน
อาศัยรากที่ค่อย ๆ แผ่ออกไป แล้วดูดเอาทรัพยากร
เล็ก ๆ น้อย ๆ มาหล่อเลี้ยงชีวิตให้อยู่ได้ แล้ว
ค่อย ๆ เติบโตขึ้นบนผาหินนี้ กว่าจะโตอย่างที่เห็น
ในภาพนี้ อาตมาว่าคงใช้เวลาหลายร้อยปีทีเดียว
แต่ดูมันยืนหยัดอย่างทระนง เห็นแล้วต้องบอกว่า
น่าชื่นชม บนผาหินแท้ ๆ ยังยืนหยัดและเติบโต
ขึ้นมาได้ พวกเราทุกคนขอให้เป็นเหมือนต้นไม้ต้นนี้
ก็แล้วกัน ต่อให้สิ่งแวดล้อมเลวร้ายเท่าใดก็ตาม
เราต้องอยู่ให้ได้ เพราะเราเป็นไม้ใหญ่ที่กินน้ำน้อย
จะอาศัยทุก ๆ โอกาสที่มีอยู่ จะไม่มองว่าสิ่งแวดล้อม
แย่ เราแย่แล้ว หมดโอกาสแล้ว ตายแน่ อย่าไปคิด
อย่างนั้น ทำใจนิ่ง ๆ รักษาสติให้ดี แล้วจับจ้องมองดู
จะพบว่ามีโอกาส มีทางรอด มีทางออก แม้จะ
ลำบากอยู่บ้าง ค่อย ๆ ชอนไชหาโอกาส แล้วหยิบ
โอกาสเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ สุดท้ายเราจะ
อยู่ได้ แล้วค่อย ๆ เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ยิ่งถ้า
เกิดเจอสิ่งแวดล้อมเอื้อให้จนสามารถทะลุจากผาหิน
ไปเจอดินอุดมสมบูรณ์ข้างล่างเมื่อไร จะโตอย่าง
เต็มที่เลย
ตั้งเป้าให้สูงเทียมฟ้า มองเชิงบวกเสมอและ
ประกอบด้วยปัญญา มีเป้าหมายที่สูงส่งเพื่อส่วนรวม
ตัวเองใช้น้อย อยู่ง่าย กินง่าย สิ่งแวดล้อมแย่เท่าไร
ก็อยู่ได้ อย่างนี้แล้วจะมีความเชื่อมั่นในตัวเองว่า
อย่างไรเราก็รอด เราอยู่ได้แน่ ก็จะทำงานอย่างมี
ความสุข สนุกกับชีวิตได้ในทุก ๆ สภาวะ
ให้ยกเป้าหมายให้สูงส่งไว้เสมอ
วางเป้าให้สูงเทียมฟ้า
อย่ากลัวที่จะตั้งเป้าหมายสูงส่ง
พระเดชพระคุณหลวงพ่อ
ท่านบอกว่า
"
คิดเล็กคิดใหญ่
ก็เสียเวลาเท่ากัน
"