ข้อความต้นฉบับในหน้า
๘๒
ทันโลกทันธรรม
เรื่อง : พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ (M.D., Ph.D.) จากรายการทันโลกทันธรรม ออกอากาศทางช่อง DMC
ทํางานสนุก
ชีวิตเป็นสุข
ochrym
วันนี้เรามาศึกษากันเรื่อง “ทำงานสนุกชีวิต
เป็นสุข” หัวใจหลักของเรื่องนี้ คือ คนเราจะสุข
จะทุกข์อยู่ที่ใจ ใจจะแปรผันไปตามความคิด ถ้าคิด
ในเชิงบวกใจก็จะเป็นสุข ถ้าคิดในเชิงลบใจก็จะเป็น
ทุกข์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังเคยตรัสว่า “ดูก่อน
ตัณหาผู้เป็นนายช่างสร้างเรือน เราเห็นตัวจริงของ
เจ้าแล้ว เจ้าอยู่ตรงความคิดนี่เอง” พอคิดแล้วความ
ทะยานอยากก็เกิด ถ้าไม่คิดก็ไม่เกิด จุดเริ่มต้นอยู่
ที่ความคิดในทุก ๆ เรื่อง ขนาดต้นเหตุแห่งทุกข์คือ
ตัณหา ยังอยู่ที่ความคิด
ๆ
เพราะฉะนั้นความรู้สึกสุขทุกข์ในใจของเรา
ก็เกิดขึ้นมาจากความคิด เรื่องเดียวกันถ้าจับมุมมอง
ดี ๆ ก็มีสุข จับมุมมองไม่ดีก็เกิดทุกข์
พระครูสมุห์สุวิทย์ สุวิชชาโภ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส
วัดพระธรรมกายเคยผูกเป็นลำนำเอาไว้ให้ลูกศิษย์ว่า
“ฟ้านั้นคล้ายหม่นหมอง
เพราะฝุ่นละอองมาบดบัง
เราดูฟ้าคล้ายหมอง
เพราะมัวมองแต่ฝุ่นบัง”
ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าคิด “ฟ้านั้นคล้ายหม่นหมอง
เพราะฝุ่นละอองมาบดบัง” ฟ้าที่ไหนก็มีฝุ่นทั้งนั้น
ถ้าฝุ่นน้อยก็บอกว่าฟ้าใส ฝุ่นมากกว่าฟ้าหลัว อึมครึม
แต่ท่านก็บอกต่อไปว่า “เราดูฟ้าคล้ายหมอง เพราะ
มัวมองแต่ฝุ่นบัง” ถ้ามัวมองแต่ฝุ่น ฟ้าก็หมอง ถ้า
ไม่มองฝุ่น มองที่ฟ้า ฟ้าก็ใส จริง ๆ แล้วอยู่ที่ใจ
เราจะเลือกมอง
โบราณก็พูดอย่างนี้เหมือนกัน เราคงเคยได้
ยินกันบ่อย ๆ ว่า “สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมอง
ๆๆ
เห็นโคลนตม คนหนึ่งตาแหลมคม มองเห็นดาวอยู่
พราวพราย” คนแรกเห็นแต่โคลน รู้สึกไม่ดีเลย
แต่อีกคนมองจากช่องเดียวกันขึ้นข้างบนในเวลา