ข้อความต้นฉบับในหน้า
นอกจากสายตาผิดปกติ สั้น ยาว เอียง ที่จำเป็นจะต้องหาแว่นตาที่เหมาะสมมาใส่
ยังมีความจำเป็นอื่นไหมที่ต้องใส่แว่น
ขณะที่สายตายังปกติดี แว่นตาอาจจะยังไม่มีความจำเป็น แต่ยามใดที่ประสบปัญหา
ยามนันชีวิตจําเป็นต้องอาศัย "แว่นตา" เข้ามาช่วย
ชีวิตย่อมหนีไม่พ้นความทุกข์ บางครั้งแม้เดินผิดทาง ทำผิดพลาดไปบ้าง
ถ้าสายตายังดีก็พอมองเห็นหนทางแก้ไข
แต่แม้สายตาจะดีก็ใช่ว่าจะมองหาทางออกเจอทุกครั้งไป
เมื่อตกอยู่ในภาวะมืดมน หาทางออกไม่เจอ การมีผู้ที่คอยช่วยส่องทางสว่าง
ชี้ช่องทางออกที่ถูกต้องให้ เป็นเรื่องที่จำเป็น
กัลยาณมิตรเป็นเสมือนแว่นตาที่ช่วยให้มองเห็นเส้นทางสว่างที่จะก้าวไปสู่จุดหมายได้
ชัดเจนขึ้น
เราทุกคนจำเป็นต้องมีแว่นส่องทางชีวิต
หลวงพ่อบอกว่าดวงตาของท่านสู้แสงจ้าไม่ไหว
ท่านจึงจำเป็นต้องใส่แว่นมาตั้งแต่สมัยที่ยังเรียนหนังสือ
จากนั้นก็จำเป็นต้องใส่เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ครั้งหนึ่งท่านเคยพูดล้อขณะที่สอนในโรงเรียนอนุบาลฯ ว่า
ถ้าดวงตาของหลวงพ่อสู้แสงได้ ไม่จำเป็นต้องใส่แว่นตาแล้ว
หรือว่าวันหนึ่งท่านลืมหยิบแว่นตามาใส่ วันนั้นนักเรียนจะยังคงจำท่านได้ไหม
สำหรับนักเรียนอย่างผมคุ้นชินทั้งตอนที่หลวงพ่อใส่และไม่ใส่แว่น
แต่นักเรียนท่านอื่นผมไม่แน่ใจ บางคนอาจบอกว่าท่านยังดูเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
บางคนอาจดูท่านแปลกตาไปบ้าง หรือว่าผิดตาจนจำท่านไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเดิม
ไม่ว่าท่านจะใส่แว่นหรือไม่ก็ตาม
ความรู้ที่หลวงพ่อนำมาเทศน์สอน
ยังคงเป็นเสมือนแว่นส่องทางสว่างชีวิตแก่นักเรียนอนุบาลฯ ทุกคนไม่เปลี่ยนแปลง
โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
เป็นเหมือนแว่นตาพิเศษที่ใครก็ตามเมื่อได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้จะเป็นผู้ที่มองได้ไกลกว่าเดิม
มองเห็นไปถึงนรก สวรรค์ ภพภูมิต่าง ๆ เห็นย้อนกลับไปยังอดีตถึงวิบากกรรมต่าง ๆ
เห็นไกลไปถึงปรโลก เห็นถึงหมู่ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว
ถ้าถามว่าที่สุดของการเห็นจะไกลได้ถึงไหน
คงต้องให้ช่วยมองไปที่มุมภาพที่หลวงพ่อนำมาสอนในโรงเรียนอนุบาลฯ
ลายเซ็นที่กำกับไว้ที่มุมล่างขวามือที่เป็นรูปคล้ายเลขแปดตะแคงน่าจะเป็นคำตอบ