การฝึกสติและการทำความดีในชีวิตประจำวัน วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554 หน้า 83
หน้าที่ 83 / 124

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเรื่องการฝึกสติและการทำความดีในชีวิตประจำวัน มีการแนะนำให้เริ่มต้นวันด้วยการนึกถึงพระคุณของพ่อแม่และทำความดีด้วยสติ เช่น การนึกถึงศีล 5 และลดการกระทำที่เป็นบาป ผลเสียจากการไม่ระวังตัวจะประสบกับเราทุกเมื่อ จึงแนะนำให้พิจารณาทุกการกระทำที่มีสติ เช่น การแต่งตัวเพื่อไม่ให้สะดุดหรือเป็นเรื่องไม่มงคล รวมถึงการป้องกันไม่ให้เกิดกรรมไม่ดี ด้วยการมีเจตนาที่จะทำความดีและการมีสติในทุกอิริยาบถ ตลอดจนการเรียนรู้จากปู่ย่าตาทวดที่สวดมนต์เพื่อให้เกิดสติในทุกเช้า

หัวข้อประเด็น

- การฝึกสติในชีวิตประจำวัน
- ความสำคัญของศีล 5
- การทำความดีและป้องกันบาปกรรม
- การมีเจตนาที่จะทำดี
- การพิจารณาก่อนการกระทำ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ตามไปดูได้ว่า บาปกรรมนั้นเป็นผังสำเร็จเข้าไปในใจเราขนาดไหน จะต้องไปตกนรกขุมไหน แต่ ที่ง่ายกว่า คือนับแต่วันนี้เป็นต้นไป ทำอย่างไรเราจะมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์อยู่ตลอดเวลา แล้วจะไม่เผลอไผลไปทำอะไรที่เสียหาย มองตรงนี้แล้วก็หาวิธีที่จะทำให้เรามีสติ มีความรู้ตัว ที่ จะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้รอบคอบขึ้นดีกว่า ข้าวของต่าง ๆ ที่มีโอกาสจะแตก จะเสียหาย ก็ป้องกันไว้ให้ดี อย่างนี้เป็นบทฝึกสติให้เราด้วย ให้กับลูกหลานด้วย อันนี้แบบโลก ๆ ก่อน แต่เมื่อก้าวเข้าไปสู่ทางธรรม ลึกขึ้นไปอีกหน่อย ไม่ว่า จะยืน จะเดิน จะนั่ง จะนอน หมั่นฝึกสติให้ได้ทุกอิริยาบถ ตั้งแต่ตื่นเช้าก่อนนอน ให้ฝึกว่าเรา จะนึกถึงพระในตัวเราเป็นสิ่งแรก หรือจะนึกถึงพระคุณของพ่อแม่เป็นสิ่งแรก ฝึกอย่างนี้ก่อน หัดให้เคย ก็เพราะอย่างนี้แหละ ปู่ย่าตาทวดของเราตื่นเช้าขึ้นมาล้างหน้าล้างตาเสร็จสรรพ ท่าน ก็สวดมนต์ไหว้พระก่อนจะไปเตรียมข้าวปลาอาหาร ก่อนจะออกไปทำงาน คือ ตื่นเช้าขึ้นมาก็ฝึก สติให้นึกถึงเรื่องการทำบุญทำทาน ฝึกสติให้นึกถึงพระในตัว นึกถึงความดีที่จะทำในวันนี้ พอถึง เวลาจะออกนอกบ้านจริง ๆ ก็ฝึกสติอีก รีบไปที่ห้องพระ กราบพระประธานแล้วก็สมาทานศีล ๕ กับองค์พระ เสร็จเรียบร้อยแล้วค่อยออกจากบ้านไปทำงาน เป็นการสัญญากับพระท่านว่าวันนี้ ศีล ๕ ข้อ จะไม่พลาดไปละเมิดทีเดียว ถ้าโต๊ะหมู่ที่บ้านไม่มี ก็อาราธนาพระที่ห้อยอยู่ในคอใส่มือเข้า แล้วก็สัญญากับหลวงพ่อ ในมือว่า วันนี้จะระวังสติให้ดี ข้อที่ ๑ อย่าว่าแต่ไปฆ่าคนเลย มดสักตัวหนึ่งก็จะไม่บี้ ยุงสัก ตัวหนึ่งก็จะไม่ตบ ข้อที่ ๒ วันนี้อย่าว่าแต่ไปลักไปโกงใครเลย แค่คิดอยากได้ของคนอื่นก็จะไม่คิด จะห้ามสติให้อยู่ ถ้าอย่างนี้ละก็ สติดีวันดีคืน ข้อที่ ๓ วันนี้ไม่เจ้าชู้เด็ดขาด อย่าว่าแต่ไปเจ้าชู้ ไปตาหวานกับเมียเขาลูกใครเลย แม้แต่จะคิดเรื่องนี้ก็ไม่คิด จะตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน ตั้งฐานะ ให้ดี ข้อที่ วันนี้ถ้าพูดแล้วต้องจริง ทำอย่างไรจะพูดอย่างนั้น พูดอย่างไรก็จะทำอย่างนั้น เรื่องขี้โม้ขี้คุยจะไม่หลุดออกจากปากเราเป็นอันขาด ข้อที่ ๕ วันนี้ไม่ว่าเหล้าไม่ว่าเบียร์ จะไม่ให้ ล่วงล้ำเกินเข้าลำคอ บุหรี่ก็ไม่เอา ฝึกสตินึกถึงศีลของเราอย่างนี้ โอกาสที่จะเพลี่ยงพล้ำไป ทำกรรมไม่ดี ไม่ว่าเจตนาหรือไม่เจตนาก็ยากที่จะเกิดกับเรา ๆ พิจารณาสิ่งเหล่านี้ให้ชัด ๆ ในกิจวัตรทุกอย่างที่เราจะต้องทำในวันหนึ่ง ๆ จะหยิบเสื้อ ขึ้นมาใส่ก็พิจารณา เช่น เสื้อตัวนี้ใส่แล้วรัดรูปมากไปไหม สั้นไปจนสะดือเปิดไหม เดี๋ยวใครเห็น เข้าจะเผลอสติ นึกเรื่องที่ไม่เป็นมงคลกับเรา เราก็จะเดือดร้อน แล้วจะไปโทษเขาก็ไม่ได้ ต้องโทษเราที่เผลอสติไปใส่เสื้อรัดรูป ไปใส่เสื้อสั้น นุ่งกระโปรงสั้น ฝึกสติไปอย่างนี้ แล้วโอกาสที่ เราจะพลาดเรื่องอะไร ๆ ก็จะน้อยลงไปทุกที ทุกอย่างที่เราทำจะทำอยู่บนพื้นฐานของความมีสติ เรื่อยไป ที่จะเผลอไปทำอะไรไม่เหมาะไม่ควรก็จะไม่มี แล้วก็ไม่ต้องมาคิดเรื่องทำกรรมโดย เจตนากับไม่เจตนา ทุกอย่างมีเจตนาหมด คือ มีเจตนาที่จะละชั่ว มีเจตนาที่จะทำดี มีเจตนาที่ จะทำใจให้ผ่องใส ทั้งให้ผ่องใสแก่ตัวเอง ให้ผ่องใสกับคนทุกคนที่เห็นเรา ที่เราเข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม เมื่อเราไปยืนอยู่แล้วมีแต่ความสดใส มีแต่คนมีเจตนาที่จะทำความดีตามเรา ทำใจผ่องใสตามเรา ตามพระสงฆ์ ตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไป พิจารณาอย่างนี้ ทำอย่างนี้ เหมาะกว่าที่จะมานั่งเจาะไปว่ากรรมโน้นกรรมนี้ ไหนหนักไหนเบา 2
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More