การบำเพ็ญเพียรของมหาอุบาสิกา วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554 หน้า 77
หน้าที่ 77 / 124

สรุปเนื้อหา

เรื่องราวนี้เกี่ยวกับมหาอุบาสิกาเมื่อได้ทำความสะอาดวิหารและถวายเป็นวัดป่าประจำหมู่บ้าน จนเป็นที่มาของการบำเพ็ญเพียรของพระภิกษุทั้ง ๖๐ รูปที่แยกย้ายไปทำสมณธรรม เมื่อมหาอุบาสิกาได้เรียนรู้การบริกรรมภาวนา เธอสามารถบรรลุถึงพระอนาคามีและได้ช่วยเหลือคณะสงฆ์จนในที่สุดพวกเขาก็บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ภายใต้การสนับสนุนของเธอ โดยเธอทำการถวายอาหารและอำนวยความสะดวกให้กับพระภิกษุอย่างต่อเนื่อง

หัวข้อประเด็น

-การบำเพ็ญเพียร
-การสนับสนุนคณะสงฆ์
-การบรรลุธรรม
-ผลของการภาวนา
-ความสำคัญของอาหารในการบำเพ็ญเพียร

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ปลื้มปีติเป็นอย่างยิ่ง ได้ทำความสะอาดวิหารที่มีอยู่ก่อนนั้นแล้ว หลังจากนั้นก็ถวายเป็น สังฆารามสำหรับการอยู่จำพรรษาของคณะสงฆ์ในวันนั้นทันที วิหารแห่งนั้นจึงกลายเป็น วัดป่าประจำหมู่บ้านไปโดยปริยาย เมื่อมหาอุบาสิกากลับไปแล้ว พระภิกษุทั้ง ๖๐ รูป ก็ตกลงกันว่า พวกเราจะแยก ย้ายกันปลีกวิเวกในป่าตามลำพัง ไม่มีการสนทนาพูดคุยกัน และจะมาประชุมกันเฉพาะ เวลาบำรุงพระเถระในตอนเย็นและเวลาบิณฑบาตในตอนเช้า หากมีกิจธุระนอกจากนั้น ให้ตีระฆังเรียกประชุมในท่ามกลางวิหาร เมื่อตกลงกันเป็นเอกฉันท์แล้ว ก็แยกย้ายกันไป บำเพ็ญภาวนาในป่าตามอัธยาศัย วันหนึ่งในเวลาเย็น มหาอุบาสิกาถือเภสัชทั้งหลาย มีเนยใสและน้ำอ้อย เป็นต้น เดินทางมาที่วัดป่านั้นพร้อมกับทาสบริวารและผู้คนในหมู่บ้านที่แวดล้อมกันมาเป็นอันมาก แต่เมื่อมาถึงแล้วกลับไม่พบคณะสงฆ์อยู่ที่นั่น จึงสอบถามพวกบุรุษ เมื่อทราบกติกาของ คณะสงฆ์นั้นแล้ว ก็ให้บริวารตีระฆัง พระภิกษุแต่ละรูปเข้าใจว่ามีเหตุอันตรายเกิดขึ้น จึง รีบออกมาจากที่บำเพ็ญเพียรของตน มหาอุบาสิกาเข้าใจว่า คณะสงฆ์แตกแยกต่างคนต่างอยู่ จึงสอบถามว่าทะเลาะ เบาะแว้งกันด้วยเหตุอันใด แต่เมื่อสอบถามแล้ว จึงได้ทราบความว่า คณะสงฆ์มิได้แตกแยก แต่แยกย้ายกันเจริญสมณธรรมด้วยการพิจารณาความไม่งามของร่างกาย เรียกว่า “อาการ ๓๒” นางจึงขอเรียนสมณธรรมนั้นบ้าง พระภิกษุจึงให้นางเรียนวิธีบริกรรมภาวนาด้วยอาการ ๓๒ อย่างครบถ้วน จำเดิมนับตั้งแต่นั้น มหาอุบาสิกาก็ตั้งใจบำเพ็ญภาวนาตามที่เรียนมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการตั้งจิตอยู่ในความสิ้นไปและความเสื่อมไปของตนตลอดต่อเนื่องทั้งวัน ไม่นานนักก็ เป็นผู้มีกิเลสเบาบางใกล้หมดสิ้น คือบรรลุธรรมเป็นพระอนาคามี พร้อมด้วยปฏิสัมภิทาญาณ - และโลกิยอภิญญา ซึ่งเป็นการบรรลุโลกุตรธรรมก่อนพระภิกษุทั้ง ๖๐ รูป หลังจากนั้น มหาอุบาสิกาได้ออกจากสุขในฌานที่ทำให้เป็นพระอนาคามี ตรวจดูด้วย ทิพยจักษุว่า คณะสงฆ์ทั้ง ๖๐ รูป บรรลุคุณวิเศษใดบ้างหรือไม่ หรือมีอุปนิสัยแห่งอรหัตผล บ้างหรือไม่ ก็พบว่ามีอยู่ จึงตรวจดูต่อไปว่า ยังมีสิ่งใดขาดตกบกพร่องในการอุปัฏฐากบ้าง หรือไม่ ก็พบว่าอาวาสเป็นที่สบายแล้ว ขาดแต่อาหารยังไม่เป็นที่สบาย จึงไม่อาจยังจิตให้ บรรลุถึงแก่ความสิ้นอาสวะได้ ทั้ง ๆ ที่การบำเพ็ญเพียรมีอยู่ตลอดเวลากลางวันและกลางคืน มหาอุบาสิการู้วาระจิตของพระภิกษุทั้ง ๖๐ รูปแล้ว จึงนำอาหารที่พระภิกษุต้องการ มาอุปัฏฐากให้อาหารเป็นที่สบาย ด้วยการถวายข้าวยาคู และอาหารเลิศรสต่างๆ ให้ถึง พร้อมทุกประการ พร้อมทั้งกล่าวเชิญชวนให้บริโภคตามความชอบใจ เมื่อพระภิกษุเหล่านั้น ได้อาหารเป็นที่สบายแล้ว จิตก็มีธรรมชาติเป็นอารมณ์เดียว การบำเพ็ญเพียรก็ก้าวหน้า ไปตามลำดับอย่างรวดเร็ว ในที่สุดก็สิ้นกิเลสอาสวะ บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More