ข้อความต้นฉบับในหน้า
- รู้ค่าของเงิน
0
หลวงปู่ท่านเล่าว่า สมัยก่อนแก้วสารพัดนึกมีจริง
นึกจะเอาอะไรก็เอาได้ นึกจะทำอะไรก็ทำได้ แต่สมัยนี้
เหลือแต่เงินเท่านั้นที่จะเป็นแก้วสารพัดนึก ท่านบอกว่า
อย่าเห็นว่าเงิน ๑ บาท เป็นกระเบื้องที่ไม่มีค่า บาทหนึ่งก็
ซื้อขนมได้ อย่าประมาท อย่าดูถูกเงิน คนที่ดูถูกเงิน ตอน
หลังแทบจะถือกะลาขอทานก็มี
แม้หลวงปู่ท่านจะเห็นคุณค่าของเงินมาก แต่ท่านก็
ไม่จับเงิน ใครจะถวายเงินต้องไปหาไวยาวัจกร แล้ว
ไวยาวัจกรจะเขียนใบปวารณาให้ จากนั้นนำใบปวารณาไป
ถวายหลวงปู่ หลวงปู่ก็จะทราบว่า คนนั้น คนนี้ ถวายเงิน
เท่านั้น เท่านี้
- รู้คุณค่าของสิ่งของ
0
หลวงปู่ท่านเป็นคนละเอียดลออ รู้ค่าของสิ่งของ
ทุกอย่างที่ญาติโยมนำมาถวาย แม้แต่ของเล็ก ๆ น้อย ๆ
อย่างเช่น เวลาเดินไปฉันภัตตาหาร ถ้าท่านเห็นข้าวสารที่
ผู้มีจิตศรัทธาบรรทุกเรือมาถวายตกอยู่แม้เพียงเล็กน้อย
ท่านจะเรียกเต็กมาเก็บ ท่านเห็นว่า ข้าวสารที่ตกหล่นอยู่
แม้เพียงเล็กน้อย ถ้าเก็บมารวมกันหลาย ๆ ครั้ง ก็เป็น
๙๑
www.kalyanamitra.org