ข้อความต้นฉบับในหน้า
ๆ
หวูดรถไฟดังกระชั้นมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่รถไฟแล่นเดี่ยว
พวกเธอไป หมอณัฐวรรณรู้สึกว่ามีอะไรมาฟาดที่หัวอย่าง
แรง ทำให้เธอกับหมอณัฐชัยกระเด็นตกจากสะพานดิ่งลง
กระแทกกับพื้นนํ้า
หมอณัฐวรรณเล่าว่า หลังจากนั้นเธอก็วูบไป รู้สึก
เหมือนตกอยู่ในภวังค์อันเลวร้ายที่มีมัจจุราชรออยู่เบื้อง
หน้า เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังจมและพยายามดิ้นรนว่ายน้ำ
พยุงตัว มีคนมาเล่าให้เธอฟังภายหลังว่า พวกชาวบ้าน
ตะโกนโหวกเหวกร้องเรียกเรือที่เหลืออยู่ลำสุดท้ายบน
ลำน้ำให้เข้ามาช่วยเธอ หัวเรือเข้ามาถึงหมอณัฐชัยก่อน แต่ ๑๐๙
โชคร้ายที่กระแสน้ำซัดเขาให้ห่างออกจากเรือและดูดให้จม
ดิ่งลงไปจนไม่สามารถช่วยได้ ในเวลาเดียวกัน คนขับเรือก็
เหลือบเห็นมือของหมอณัฐวรรณที่โผล่ขึ้นมาก่อนจะจมดิ่ง
ตามหมอณัฐชัยลงไป คนขับเรือคว้ามือเธอไว้ทัน แล้วลาก
ขึ้นมาบนเรือได้ และพยายามช่วยให้เธอได้สติเร็วที่สุด
เมื่อเริ่มรู้สึกตัว เธอจําอะไรไม่ได้เลย งงว่าตัวเองอยู่
ที่ไหน มาทําอะไรอยู่ตรงนี้ ทำไมมีผู้คนมุงเต็มไปหมด ต้อง
ใช้เวลาสักครู่กว่าจะเรียกความจำคืนมาได้ พอรู้ตัวก็รีบคลำ
สร้อยที่ห้อยเหรียญหลวงปู่ทันที นึกขอบพระคุณที่หลวงปู่
ช่วยคุ้มครอง หลังจากนั้นก็มีคนนำเธอส่งโรงพยาบาล ส่วน
www.kalyanamitra.org