ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อธิบายบาลีไวยากรณ์ สมัญญาภิธานและสนธิ - หน้าที่ 20
คือ อิ เป็น เอ เช่น มุนิ อาลโย เป็น มุเนลโย, เอา อุ เป็น โอ เช่น
สุ อตฺถิ เป็น โสตถี, วิการในเบื้องปลาย ก็มีวิธีเหมือนวิการในเบื้องต้น
เป็นแต่ละลบสระหน้า วิการสระหลังเท่านั้น เช่น มาตุล-อิริต เป็น
มาลุเตริติ นี้ลบ อ ที่มาลุต เสีย แล้วเอา อิ ที่ ศัพท์หลังเป็น เอ, น=อุเปติ
1
เป็น โนเปติ นี้ลบ อ ที่ น แล้วเอา อุ เป็น โอ, อุทก อุมิกชาติ เป็น
อุทโกมิกชาติ นี้ลบนิคคหิตที่ศัพท์หน้า แล้วเอาอุ ที่ศัพท์หลังเป็น โอ.
หากจะมีคำถามว่า ในสระสนธินี้ อา
อาเทศ กับวิการ ต่างกันอย่าง
ไร? ควรแก้ว่า อาเทศนั้น คือแปลง สระ เป็นพยัญชนะ คือแปลง อิ
เป็น ย เช่น อคฺคิ—อคาร์ เป็น อคฺนาคาร์, แปลง เอ เป็น ย เช่น เต = อสฺส
เป็น ตุยสฺส, แปลง อุ เป็น ว เช่น พหุ อาพาโธ เป็น พหุวาพาโธ แปลง
โอ เป็น ว เช้น อถโข-อสฺส เป็น อกขวสุส ส่วนวิการนั้น ทำสระให้
เป็นสระ แต่ให้ผิดจากรูปเดิม คือ เอา อิ เป็น เอ เอา อุ เป็น โอ เช่น
มุนิ=อาลโย เป็น มุเนลโย, สุ อตฺถิ เป็น โสตถี เป็นต้น.
อุ
ปกติสระ นั้น มีวิธีทำไม่แปลกไปจากเดิม คือสระเดิมเป็น
อย่างใด ก็คงไว้อย่างนั้น เป็นแต่เอาสระหน้ากับสระหลังไปต่อกันเข้า
เท่านั้น เช่น โก-อิมิ ก็คงเป็น โกอิม.
ทีโฆ มี ๒ คือ ทีฆะสระหน้า ๑ ทีฆะสระหลัง ๑. ทีฆะสระ
หน้านั้น คือ:-
ก. ถ้ามีสระอยู่เบื้องหลัง ก็ลบสระหลังเสีย แล้วจึงที
เช่น กึสุ อิธ เป็น กีสูธ, สาธุ อิติ เป็น สาธุติ
แล้วจึงทีฆะสระหน้า
ข. แม้พยัญชนะอยู่เบื้องหลัง ทีฆะสระหน้าได้ เช่น มุนิ จเร