วิวาทะเรื่อง “สรรพสิ่งมีอยู่” การกำเนิดนิกายสรวาสติวาท (2) หน้า 17
หน้าที่ 17 / 31

สรุปเนื้อหา

ในคัมภีร์ ถฺตกวัตถุ มีการอภิปรายเกี่ยวกับแนวคิดที่ว่าสรรพสิ่งมีอยู่ทั้งในอดีต ปัจจุบัน โดยไม่มีการละทิ้งสภาวะของมัน ความเห็นนี้เรียกว่า “สรรพสิ่งมีอยู่” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการแบ่งแยกในกาลทั้งสาม การศึกษาในเรื่องนี้มีรากฐานมาจากอรรถธรรมในคัมภีร์ต่างๆ ที่อธิบายถึงความจริงในธรรมชาติ ทั้งในภาษาบาลีและสันสกฤต อาจารย์บางท่านได้กล่าวถึงเนื้อหานี้ในคัมภีร์สามโกษเอกเศียกุล

หัวข้อประเด็น

-อภิปรายนิยามของสรรพสิ่ง
-การมีอยู่ในสามกาล
-การเปรียบเทียบภาษาบาลีและสันสกฤต
-ความหมายของคำว่า ‘อิติ’ และ ‘อัสติ’
-นักปรัชญาที่เกี่ยวข้อง

ข้อความต้นฉบับในหน้า

3. วิวาทะเรื่อง “สรรพสิ่งมีอยู่” (sabbam-atthīti-vādakathā) ในคัมภีร์ ถฺตกวัตถุ มีภาษาซื่อว่า สัพพมุฏฑิติวาทกถาก (sabbam-atthīti-vādakathā) กล่าวเกี่ยวกับรูปขันธ์เป็นต้นว่า มีอยู่ทั้งในอดีต ปัจจุบัน เพราะว่าไม่ได้ละทิ้งสภาวะของมัน ดังนั้นรวมทั้งหลาย จึงจำแนกอยู่ในกาลทั้งสาม คือ อดีต ปัจจุบัน อนาคต จากความเห็นข้างต้น จึงถือว่า “สรรพสิ่งมีอยู่” ซึ่งในคัมภีร์ ถฺตกวัตถุอรรถถถา จงน โดยพระพุทธโมสะได้อธิบายว่า เป็นความเห็นของสัพพตัธรรม (Sabba-atthi-vāda) คำว่า “อิติ” (atthi) ในชื่อถิ่นว่า “สัพพติวิฬา” (Sabba-atthi-vāda) เป็นคำศัพท์บาลีซึ่งตรงกับ คำว่า “อัสติ” (asti) ในชื่อถิ่นว่า “สราวติวาม” (Sarva-asti-vāda) เป็นคำศัพท์ภาษาสันสกฤตที่ปรากฎอยู่ใน คัมภีร์อรรถธรรม โกศจายะ แต่หากพิจารณาจากความเก่าของคัมภีร์ กถวัตถุอรรถถก ที่กำเนิดอยู่ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 6 คาดว่า การใช้ชื่อ “สราวติวาม” เป็นที่นิยมใช้อย่างเป็นทางการแล้ว พระประมวละได้กล่าวถึงอาจารย์บางท่านว่า “สรรพสิ่งมีอยู่” ในคัมภีร์สามโกษเอกเศียกุล ดังนี้
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More