ข้อความต้นฉบับในหน้า
14
สวดมนต์ฉบับธรรมทายาทและอุปสมบทหมู่
ปะฏิสังขา โยนิโส เสนาสะนัง
ปะฏิเสวามิ,
ยาวะเทวะ สีตัสสะ ปะฏิฆาตายะ,
อุณหัสสะ ปะฏิฆาตายะ,
ทั้งสะมะกะสะวาตาตะปะสิริงสะปะสัมผัส-
สานัง ปะฏิฆาตายะ,
ยาวะเทวะ อุตุปะริสสะยะวิโนทะนัง
ปะฏิสัลลานารามัตถัง.
ปะฏิสังขา โยนิโส คิลานะปัจจะยะ
เภสัชชะปะริกขารัง ปะฏิเสวามิ,
ยาวะเทวะ อุปปันนานัง เวยยาพาธิกานัง
เวทะนานัง ปะฏิฆาตายะ,
อัพยาปัชฌะปะระมะตายาติ
เราย่อมพิจารณาโดยแยบคายแล้วใช้สอย
เสนาสนะ
เพียงเพื่อบำบัดความหนาว
เพื่อบำบัดความร้อน
เพื่อบำบัดสัมผัสอันเกิดจากเหลือบ ยุง
ลม แดด และสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย
เพียงเพื่อบรรเทาอันตราย อันจะพึงมี
จากดินฟ้าอากาศ และเพื่อความเป็นผู้
ยินดีอยู่ได้ในที่หลีกเร้นสำหรับภาวนา
เราย่อมพิจารณาโดยแยบคาย แล้วบริโภค
เภสัชบริขารอันเกื้อกูลแก่คนไข้
เพียงเพื่อบำบัดทุกขเวทนาอันบังเกิดขึ้นแล้ว
มีอาพาธต่าง ๆ เป็นมูล
เพื่อความเป็นผู้ไม่มีโรคเบียดเบียนเป็น
อย่างยิ่ง ดังนี้
๑๐. ธาตุปฏิกูลปัจจเวกขณปาฐะ
(หันทะ มะยัง ธาตุปะฏิกูละปัจจะเวกขะณะปาง ภะณามะ เส.)
ยะถาปัจจะยัง ปะวัตตะมานั่ง
ธาตุมัตตะเมเวตัง,
ยะทิทัง จีวะรัง,
ตะทุปะภุญชะโก จะ ปุคคะโล ธาตุ
มัตตะโก นิสสัตโต นิชชีโว สุญโญ
สัพพานิ ปะนะ อิมานิ จีวะรานิ
อะชิคุจฉะนียานิ,
อิมัง ปูติกายัง ปัตวา อะริยะ
ชิคุจฉะนียานิ ชายันติ
สิ่งเหล่านี้ เป็นสักว่าธาตุตามธรรมชาติเท่านั้น
กำลังเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย อยู่เนืองนิจ
สิ่งเหล่านี้ คือ จีวร
และผู้ใช้สอยจีวรนั้น เป็นสักว่าธาตุตาม
ธรรมชาติ มิได้เป็นสัตวะอันยั่งยืน มิได้เป็น
ชีวะ อันเป็นบุรุษบุคคลว่างเปล่าจาก
ความหมายแห่งความเป็นตัวตน
ก็จีวรทั้งหมดนี้ ไม่เป็นของน่าเกลียดมา
แต่เดิม
ครั้นมาถูกเข้ากับกาย อันเน่าอยู่เป็นนิจนี้
แล้ว ย่อมกลายเป็นของน่าเกลียดอย่าง
ยิ่งไปด้วยกัน