ข้อความต้นฉบับในหน้า
80
สวดมนต์ฉบับธรรมทายาทและอุปสมบทหมู่
โอวาทพระภาวนาวิริยคุณ (หลวงพ่อทัตตชีโว)
รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
เกียรติของพระภิกษุ
สมัยปู่ย่าตาทวดของพวกเรา หากพระภิกษุสามเณรรูปใดก็ตาม ย่างก้าวไปถึงที่ไหน
ก็จะมีประชาชนออกมาต้อนรับมากราบไหว้แทบเท้า คอยให้ความสะดวกทุกสิ่งทุกอย่างไป
ถึงนั่น ถ้าถามว่าทำไมจึงเป็นอย่างนั้น ก็ต้องบอกว่า เพราะพระภิกษุสามเณรตั้งแต่สมัย
ปู่ย่าตาทวด ท่านประพฤติปฏิบัติธรรมกันอย่างเคร่งครัดตามพระธรรมวินัยจึงได้รับเกียรติ
ได้รับการยกย่องเชื้อเชิญอย่างมากมายถึงปานนั้น
แต่ปัจจุบันนี้ การให้เกียรติอย่างนั้นนับวันจะหมดไป ในเมืองใหญ่ๆ ที่ผู้คนพลุกพล่าน
เราจะพบว่าพระภิกษุไม่ได้รับเกียรตินั้นแล้ว เคราะห์หามยามร้ายเดินไปตามถนนอาจถูกเดิน
ชนจนล้ม ขึ้นรถเมล์ก็ไม่ค่อยมีใครอยากสละที่นั่งให้ แม้ที่สุดตามวัดต่างๆ โดยเฉพาะอย่าง
ยิ่งวัดในกรุงเทพฯ เวลาที่พระเดินผ่านถึงตรงหน้า ความหวังที่จะเห็นภาพญาติโยมนั่งลงไหว้
เปิดทางให้ หรือกราบแทบเท้า หรือกราบลงไปกับพื้น ก็ไม่มีแล้ว
ถ้าพระภิกษุไม่ว่าจะอยู่วัดไหน ยังตั้งใจประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่ง
ครัดก็จะยังได้รับเกียรติอย่างนั้นจากญาติโยมอยู่ แต่ถ้าเราไม่ค่อยเคร่งครัด ระมัดระวัง
ตัวเองเท่าที่ควร ถึงคราวสวดมนต์ก็ไม่ค่อยจะสวด ถึงคราวนั่งเจริญสมาธิก็ขาด ถึงคราว
จะต้องขึ้นเทศน์ก็เกี่ยงกัน ไม่ค่อยอยากจะขึ้นเทศน์ เพราะเตรียมมาไม่พร้อม งานการส่วน
รวมบางวันก็ขยัน บางวันก็เกียจคร้าน
ถ้า
ความประพฤติเหล่านี้ล้วนเป็นการลดเกียรติ ลดฐานะ ลดยศของพระเอง
ปล่อยปละละเลยไม่รีบแก้ไข ไม่ช้าพระในวัดของเราก็จะไม่มีใครไหว้ ไม่มีใครกราบ แล้ว
ตอนนั้นไปโทษใครเขาก็ไม่ได้ เพราะเป็นความผิดพลาดของเราเอง
เราต้องตระหนักว่า เรายังไม่ได้เป็นพระอรหันต์ เพราะฉะนั้นถ้าสำรวจตรวจสอบตัว
เองเมื่อไร เราก็จะพบข้อบกพร่องของตนเองจนได้ เมื่อเราพบข้อบกพร่องของตนเองแล้ว
ก็ขอให้รีบแก้ไขเสีย อย่าปล่อยปละละเลย ครั้งใดถ้าญาติโยมเขาไม่แสดงความเคารพ
ไม่กราบ ไม่ไหว้ ไม่เกรงใจ ต้องรีบพิจารณาดูตัวเองว่า เราบกพร่องอะไรตรงไหน พบ
แล้วก็ให้รีบแก้ไข ปรับปรุงเสีย
ทุกครั้งที่ญาติโยมเขาเคารพ เขากราบ เขาไหว้เรา ก็ขอให้ถามตัวเองว่าเราดีจริงสม