ข้อความต้นฉบับในหน้า
72
สวดมนต์ฉบับธรรมทายาทและอุปสมบทหมู่
สุคติ - ทุคติ
สภาพที่เป็นธรรมย่อมนำสัตว์ไปสู่สุคติ และสภาพที่เป็นอธรรมย่อมนำสัตว์ไปสู่ทุคติ
สภาพที่เป็นบุญก็ย่อมนำสัตว์ไปสู่สุคติ สภาพที่เป็นบาปก็ย่อมนำสัตว์ไปสู่ทุคติ
สภาพที่เป็นบุญ เป็นดวงใส ติดอยู่ในศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นมนุษย์แบบ
เดียวกัน ถ้าดวงบุญใหญ่โตก็นำไปสู่สวรรค์ ถ้าดวงบาปใหญ่โตกว่าก็นำไปสู่นรก ใครจะ
แก้ไขอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ทั้งนั้น ย่อมเป็นไปตามคติของตน เหมือนหญิงชายจะเป็น
สามีภรรยากันใครก็แล้วแต่ จะต้องตกลงใจของกันและกันเอง
ฉะนั้นการที่สัตว์จะไปสู่ทุคติ ภพดึงดูดมีอยู่ ทำความชั่วไม่มีความดีเข้าไปจุนเจือเลย
แม้เพียงเท่าปลายผมปลายขน พอแตกกายทำลายขันธ์ โลกันตร์ดึงดูดเอาไป จะไปอยู่ที่อื่น
ใดไม่ได้ทั้งนั้น อายตนะบาปดึงดูดไปทันที ถ้าว่าภพหย่อนลงกว่านั้นมา ก็ไปอยู่ในอเวจี
มหาตาปนรกเหล่านี้เป็นต้น แต่พอมาเกิดในจำพวกสัตว์เดรัจฉานได้ สัตว์เดรัจฉานก็ดึงดูด
เอาไปเกิดในจำพวกสัตว์เดรัจฉาน แต่ถ้าทำความผิดไม่ถึงขนาดนั้น ก็ไปเกิดเป็นเปรต อสุรกาย
ตามลำดับ
ถ้าทำความดีด้วย กาย วาจา ใจ ไม่มีความชั่วบาปช้ามาเจือปนเลย พอแตกกาย
ทำลายขันธ์ อายตนะของมนุษย์ดึงดูด เข้าสู่คัพภสัตว์ ไปติดอยู่ในกำเนิดมนุษย์ ถ้าดีมาก
ขึ้นไปกว่านี้ ก็ไปเกิดในจำพวกเทวดา เป็นชั้นๆ สูงขึ้น ชั้นจาตุมหาราช ชั้นดาวดึงส์ ชั้นยามา
ชั้นดุสิต ชั้นนิมมานรดี ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี สูงขึ้นไปตามสภาพของธรรมชาติดึงดูดกันเอง
ว่า ตนได้กระทำความดีขนาดเท่าไร ควรอยู่ควรเกิดในที่ไหน เมื่อตรงกับอายตนะไหน อายตนะ
นั้นก็ดึงดูดไป เขามีอายตนะสำหรับเหนี่ยวรั้งและดึงดูดกันทั้งนั้น เราติดอยู่ในมนุษย์นี้ไป
ไหนได้เมื่อไร ไปไม่ได้ทั้งนั้น อยากจะตายก็ตายไม่ได้ บ่นไปเถอะก็ไม่ตาย แต่พอถึงกำหนด
ไม่อยากตายก็ต้องตาย จะถูกบังคับบัญชาอย่างนี้ ดึงดูดอย่างนี้เสมอไป
เหตุนี้เราจึงได้แสวงหาบุญ บุญจะได้ดึงดูดไปสู่สุคติ ทุคติจะได้ไม่มีต่อไป
(จากพระธรรมเทศนาเรื่อง “ภัตตานุโมทนากถา”
เอาชีวิตเข้าแลก
พระก็ดี เณรก็ดี ทำจริงก็เป็นทุกคนเท่านั้นแหละ
๑๐ พฤษภาคม ๒๔๙๗ )
จริงแค่ไหนล่ะเป็นทุกคนน่ะ?
จริงแค่ชีวิตชิ เป็นทุกคน จริงอย่างไรล่ะ? นั่งลงไปประเดี๋ยวก็ได้รู้จริงกันละ นั่งลงไป เมื่อย