ข้อความต้นฉบับในหน้า
70
สวดมนต์ฉบับธรรมทายาทและอุปสมบทหมู่
โอวาทพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
บูชา
บูชามี ๒ อย่าง อามิสบูชา คือ บูชาด้วยเครื่องสักการะอย่างหนึ่ง ปฏิบัติบูชา คือบูชา
ด้วยการปฏิบัติอย่างหนึ่ง ในการบูชาทั้ง ๒ อย่างนี้ พระองค์ทรงสรรเสริญว่า ปฏิบัติบูชาดี
กว่าอามิสบูชา เมื่อคิดทบทวนดูเหตุผลในพระโอวาทข้อนี้แล้ว เราจะเห็นได้ชัดทีเดียวว่า
พระองค์มีพระประสงค์จะให้พวกเรามีความเพียรพยายามปฏิบัติเจริญรอยตามพระองค์ มาก
กว่าที่จะมามัวบูชาพระองค์อยู่ หาไม่พระองค์จะตรัสเช่นนั้นทำไม และโดยนัยนี้เองจึงเป็น
ที่เห็นได้ว่าแม้เวลานี้จะเป็นกาลล่วงมาช้านาน จากที่พระองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานไป
แล้ว ก็ไม่มีอะไรเป็นข้อห้ามว่า ผู้ที่ปฏิบัติตามจะไม่ได้รับผลอย่างที่ท่านได้รับ นอก
จากคำกล่าวอ้างของคนเกียจคร้าน
ข้อนี้คำว่า “อกาลิโก” ในบทธรรมคุณนี้เองเป็นหลักฐานยันอยู่ว่าธรรมของพระองค์
ผู้ใดปฏิบัติตามย่อมจะเกิดผลทุกเมื่อไม่มีขีดคั่น พระอริยสาวกทั้งหลายนั้นฐานะเดิมก็เป็น
มนุษย์ปุถุชนนี้เอง แม้องค์สมเด็จพระบรมศาสดาก็เช่นกัน มิใช่เทวดา อินทร์ พรหมที่ไหน
แต่ที่เลื่อนขึ้นสู่ฐานะเป็นพระอริยะได้ ก็เพราะการปฏิบัติเท่านั้น แนวปฏิบัติอย่างไหนถูก
พระองค์สอนไว้ละเอียดหมดแล้ว
ปัญหาจึงเหลือแต่ว่าพวกเราจะปฏิบัติกันจริงหรือไม่เท่านั้น ?
(จากพระธรรมเทศนาเรื่อง “พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ”)
วาจาศักดิ์สิทธิ์
ถ้าว่าหัดวาจาไพเราะเสียในชาตินี้ ชาติต่อๆ ไปวาจาของตนศักดิ์สิทธิ์ จะพูดอะไร
สำเร็จกิจหมดทุกอย่าง ถ้าใช้วาจาหยาบก็เท่ากับวาจาจอบตัวเอง ในชาตินี้ก็ดี วาจาหมด
อำนาจหมดสิทธิ์ ไม่มีอำนาจอะไร พูดไปก็เท่ากับไม่ได้พูด พูดอะไรเป็นไม่สำเร็จ เพราะวาจา
ของตน ไม่ได้บำเพ็ญกุศลทางวาจาไว้ ถ้าบำเพ็ญบุญกุศลทางวาจาไว้แล้ว กล่าววาจาใด
วาจาศักดิ์สิทธิ์ วาจาศักดิ์สิทธิ์ นี่ไม่ได้เป็นของพอดีพอร้าย
เรื่องวาจาศักดิ์สิทธิ์นี้เมื่อครั้งสมเด็จพระบรมศาสดาเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว