ข้อความต้นฉบับในหน้า
ยามว่าง ยายกานต์เอาดอกลำเจียกแห้ง ใส่ในตู้ให้เสื้อผ้า
มีกลิ่นหอม ท่าขมิ้นแก่จัดเป็นผงแป้งด้วยฝีมือประณีต เอา
ดอกไม้ป่าหอมๆ ตำกับสมุนไพรหายากทาตัว ผสมน้ำไว้อาบ
สมัยนั้น พระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณ เป็นของ
ไทย มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ มีทุกสิ่งทุกอย่างที่ชาวบ้าน
ต้องการ ใครไม่เคยไปเขมรถือว่าเชย คนเขมรเป็นญาติพี่น้อง
กับคนไทย เดินทางไปมาสะดวก ลูกหลานใครบวช จะจัดระแทะ
ขบวนช้าง ขบวนม้า แห่นาคข้ามเขา ทวดของยายกานต์ ไป
เอาทองคำรูปพรรณสีดอกบวบและเงินยวงบริสุทธิ์ของเขมรมา
เก็บไว้ให้ลูกหลาน
ยายกานต์เริ่มดื่มเหล้าอายุ 40 ปีเศษ เมื่อลูกชายคนเล็ก
อายุ 7 ขวบ ชื่อชานนท์ กำลังน่ารักน่าเอ็นดูตายด้วยโรค
ท้องร่วง พอขบวนแห่ศพอ้อมเขา 13 กิโลเมตรจากบ้านลูกสาว
คนโต มาถึงบ้านหน้าเขาพนมสวาย ยายกานต์ร้าวรานหัวใจ
สลายร้องไห้อาดูรอย่างหนัก เพราะไม่ได้อยู่ด้วยขณะชานนท์ตาย
และคิดถึงเสียงหัวเราะร่าเริงของลูกชายสุดที่รัก ผู้สร้างความ
เบิกบานให้แก่ทุกๆ คน
ทุกคืนตั้งแต่วันที่สูญเสียชานนท์ ยายกานต์คิดถึงลูกชาย
มากจนไม่เป็นอันหลับอันนอน จึงซื้อเหล้าผสมยาดองดื่ม จุด
ตะเกียงเผาไม่ให้ดูสว่างตรงระเบียงบ้าน แล้วนั่งตลอดคืนรอ
ลูกชายที่ตาย พร้อมทั้งดื่มเหล้าไปด้วยเพื่อให้ลืมลูก จน
ร่างกายผ่ายผอมแทบจะเดินไม่ไหว ทำอย่างนี้แรมเดือนแรมบี
ในที่สุดทำใจได้ว่า ลูกชายไม่มีวันกลับมาอีก ยายกานต์จึงเลิก
ดื่มเหล้า แต่นานๆ จะดื่มเหล้าผสมยาดองสักทีหนึ่ง
ยายกานต์เริ่มป่วยมีก้อนแข็งๆ อยู่ที่ลำไส้ เมื่อมีอายุได้ 73
ปี แต่ไม่ยอมไปโรงพยาบาล ให้หมอนวดจับเส้นให้บ่อยๆ จน
เจ็บมากขึ้น จึงตัดสินใจไปหาหมอ พบว่าเป็นมะเร็งเนื้อร้าย
ตรงลําไส้ และผ่าตัดให้ มารักษาตัวที่บ้าน อาการดีขึ้นเรื่อยๆ
ปีต่อมา ยายกานต์ท้องบวมขึ้นมาอีก พอไปตรวจ พบก้อน
มะเร็งลามไปทั่วท้อง หมอไม่กล้าผ่าตัดเป็นครั้งที่ 2 ตรงที่เดิม
เพราะยายกานต์อายุมากขึ้น และไปรักษาแผนโบราณ แม้จะ
เจ็บปวดมาก ยายกานต์ก็อดทนไม่ร้องเลย ได้แต่ลูบท้องและ
พูดว่า “ถ้ามันยุบลงนิดหนึ่ง ยายก็จะหายแล้ว” บอกตัวเอง
อย่างนี้ทุกวัน
คืนหนึ่ง ขณะหลานๆ นั่งดูละครโทรทัศน์กันอยู่ ยายกานต์
ลุกขึ้นมาดูหลานๆ ว่า “หัวเราะกันอยู่ได้ คนเจ็บจะตายอยู่แล้ว!”
คนพยุงยายนอนลง สักพักยายลุกขึ้นมาอีก มีเลือดสีเข้มไหล
ออกมาจากจมูก พอวางตัวลงบนที่นอน ยายกานต์ก็สิ้นใจใน
เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2536 อายุ 75 ปี
40
case study
41
กฎแห่งกรรม