ข้อความต้นฉบับในหน้า
การครองคน-ครองงาน
ทำงานทั้งๆ ที่ลูกจ้างเขาทำเต็มที่ เอาชีวิตเป็นเดิมพัน แต่ถึงคราวจะ
ยกย่องจะให้ตำแหน่งยศถาบรรดาศักดิ์ กลับมีการเล่นเส้นเล่นสาย เอา
ลูกเอาหลานตัวเองขึ้นมา โดยไม่คำนึงถึงน้ำใจกันบ้าง หรือไม่คำนึงถึง
ฝีมือกันเลย เรามีการกระทำอย่างนั้นไหม ถ้าไม่มีละก็ แสดงว่าเรา
ได้ทำหน้าที่ของนายจ้างอย่างสมบูรณ์แล้ว
ถ้าทั้ง ๒ ฝ่ายสำรวจตรวจสอบตัวเองกันอย่างเป็นธรรมเช่น
นี้ ไม่ช้าก็กลับคืนเข้าหากันได้เอง เรื่องที่จะกระทบกระทั่งรุนแรงจน
เดินขบวนก็ไม่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าจะเขียนเป็นแผนภูมิขึ้นมา เรา
ก็ได้อย่างนี้คือ
ฝ่ายลูกจ้างก็ต้องเต็มใจ คือมี ฉันทะ นั่นเองฝ่ายนายจ้างก็ต้อง
มีเมตตา แล้วเมื่อฝ่ายลูกจ้างเขามีข้อที่ ๒ คือ แข็งใจทำ ซึ่งทางพระ
เรียก วิริยะ นายจ้างก็ต้องมีกรุณา จัดสวัสดิการเต็มที่
พอถึงข้อที่ ๓ เมื่อลูกจ้างตั้งใจทำอย่างดีที่สุดเลย ภาษาพระ
ใช้คำว่า จิตตะ นายจ้างก็ต้องมีน้ำใจให้กันเต็มที่ ส่งเสริมสนับสนุนกัน
เต็มที่ คือมีมุทิตา
ข้อที่ ๔ สุดท้ายยิ่งลูกจ้างเขารู้จักไตร่ตรองเข้าใจทำ ภาษาพระ
เรียกว่า วิมังสา นายจ้างก็ต้องมีอุเบกขา คือให้ความเป็นธรรมให้เต็มที่
ถ้าเราทำกันอย่างนี้ด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่ายแล้วล่ะก็ รับรองได้ว่า
การเดินขบวนประท้วงไม่มีเลย มีแต่หันหน้ามาคุยกัน แล้วจะรักกัน
ข้อพึงปฏิบัติ ๔ ข้อ สำหรับลูกจ้าง ดังกล่าวข้างต้น คือคุณธรรมที่มีชื่อว่า
“อิทธิบาท ๔” ส่วนข้อพึงปฏิบัติสำหรับนายจ้าง ๔ ข้อ ก็คือคุณธรรม
ที่ชื่อว่า “พรหมวิหาร ๔ นั่นเอง
ในกรณีที่เกิดการกระทบกระทั่งกันไม่ว่าที่ไหน สิ่งที่จะต้อง
ทบทวนโดยสรุปก็คือ นายจ้างเองต้องสำรวจตัวเองว่า ตัวเรานี้ทำตัว
พระภาวนาวิริยคุณ 24 (เผด็จ ทั ต ต ชีโว)