ข้อความต้นฉบับในหน้า
การครองคน-ครองงาน
แบบนี้เอายังไงก็เอากัน เหนื่อยแค่ไหนก็ยอม แต่ว่าถ้ายังแบ่งยังแยกกัน
อยู่ ก็ตายสถานเดียว
วัดใดก็ตามขอฝากข้อคิดไว้ว่า ถ้าพระในวัดถึงเวลาฉัน ไม่
ฉันรวมกัน ต่างองค์ต่างฉันที่กุฏิ แสดงว่าความสามัคคีได้หมดไปแล้ว
โอกาสที่จะมานั่งสนทนาปรึกษากันน่ะ หมดไปแล้ว วัดนั้นก็มีแต่
จะร้างอย่างเดียว หรือไม่ก็มีแต่ปัญหา
กรณีของท่านที่ถามมา ถ้าจะใช้เณรได้ง่ายๆ แนะนำอะไรก็ทำ
ตาม ท่านต้องทำอย่างนี้คือ ถึงเวลาฉันก็เรียกเณรมาฉัน มาปันส่วนกัน
ทั้งของฉันของใช้ แล้วก็อย่าชี้นิ้วใช้อย่างเดียว ลงมือทำด้วย ถ้าทำ
แบบนี้ละก็ อยู่กันยืดครับ ความจริงสามเณรก็อยากดี รักดีอยู่แล้วจึง
มาบวช
ถ้าจะให้ดีนะครับ หลวงพ่อหลวงพี่ทั้งหลาย ผมอยากจะ
ฝากอีกเรื่องหนึ่งคือ หัดให้กำลังใจให้เป็น ทั้งให้กำลังใจสามเณรและ
ให้กำลังใจตัวเอง
ก่อนอื่นต้องรู้จักให้กำลังใจตัวเองก่อนว่า “วันนี้ทำงานเหนื่อย
แท้ๆ เหนื่อยอย่างนี้ได้ชื่อว่ารับใช้พระพุทธเจ้าเต็มที่ สมแล้วที่เราได้
บวชเข้ามาอาศัยพระศาสนาเป็นสุข แล้วก็ให้พระศาสนาได้อาศัยเราด้วย
เรานี้สมเป็นลูกพระพุทธเจ้าจริงๆ” ให้กำลังใจตัวเองได้อย่างนี้ เราเอง
ก็ท้อไม่เป็น
ผ่านจุดนี้ได้ จากนั้นเราจึงจะให้กำลังใจลูกศิษย์ ให้กำลังใจ
เณรได้ แล้วจึงจะอยู่ด้วยกันได้ ท่านขึ้นเอาแต่ชี้นิ้วใช้เณรตูมๆ พอเณร
บ่นว่าเหนื่อย ก็ด่าเลย “อะไรวะแค่นี้เหนื่อย” ถ้าอย่างนี้เณรไม่ทำหรอก
แต่ว่าถ้าพูดให้กำลังใจกัน เช่น “เหนื่อยเหรอเณร หลวงพ่อ มีโกโก้ มี
น้ำหวานแน่ะ เดี๋ยวไปชงฉันกัน เอาไปปั่นกันฉันนะ”
พระภาวนาวิริยคุณ 66 (เผด็จ ทัตตชีโว)