การบรรพชาอุปสมบทและความสุขที่แท้จริง การบรรพชาอุปสมบท หน้า 2
หน้าที่ 2 / 34

สรุปเนื้อหา

การบรรพชาอุปสมบทสำคัญในทางปฏิบัติที่ช่วยให้เราค้นพบความสุขที่แท้จริง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอธิบายความสุขแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ อามิสสุข และ สามิสสุข ความสุขที่แท้จริงคือความสุขทางธรรมที่ไม่มีวันกลับมาเป็นทุกข์ ในฐานะที่ความสุขอิงวัตถุเป็นเพียงผลพลอยได้ สามารถนำมาซึ่งทุกข์ในอนาคต ผู้ที่ยังไม่เคยสัมผัสพระธรรมของพระเบื้องผู้ทรงสอนยังจะไม่พบความสุขที่แท้จริง

หัวข้อประเด็น

-ความสุขที่แท้จริง
-อามิสสุข
-สามิสสุข
-บทบาทของพระธรรม
-การบรรพชาอุปสมบท

ข้อความต้นฉบับในหน้า

2 การบรรพชาอุปสมบท ขอความเจริญรุ่งเรืองอยู่ในธรรมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จงบังเกิดแก่ท่านผู้ฟังทุกท่านโดยทั่วกัน วันนี้อาตมาขอเริ่มต้นการเทศน์ด้วยการยกปัญหาขึ้นมาถามพวกเราสักข้อหนึ่ง คือขอให้พวกเราลองนึกถามตัวเองว่า นับแต่จำความได้จนกระทั่งถึงวันนี้ เราต้องการอะไรมากที่สุด หรือเรากำลังเสาะแสวงหาสิ่งใดอยู่ อาตมาถามมาหลายที่แล้ว ได้คำตอบตรงกันคือ ต้องการความสุข แม้พวกเราทุกคนที่นี่ก็ต้องการความสุขเหมือนกัน ไม่มีใครเลยที่ต้องการความทุกข์ ถามต่อว่าความสุขที่พวกเราเฝ้าเสาะแสวงหากันนั้น มีใครได้พบแล้วหรือยัง...... หลายคน บอกว่าพบแล้ว ครั้นซักไซ้ไล่เรียงเอาจริง ๆ จัง ๆ กลับลังเล เพราะความสุขที่ว่าพบแล้วนั้น แท้จริงเป็นเพียงความสุขชั่วคราว สุขแบบสุก ๆ ดิบ ๆ ด้วยซ้ำ คือสุขแล้วก็ทุกข์อีก สำหรับความสุขจริง ๆ สุขที่ไม่กลับเป็นทุกข์อีกนั้น จนแล้วจนรอดก็ยังหากัน ไม่พบ แม้ใครจะมีอายุยืนเป็นหมื่นเป็นพันปี หากยังไม่ได้พบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือยังไม่ได้พบคำสอนของพระองค์แล้ว ต่อให้เกณฑ์คนทั้งโลกมาช่วยกันหาว่าความสุขอยู่ที่ไหน ก็อย่าหวังเลยว่าจะได้พบ มีแต่คนบางจำพวกเท่านั้น ที่เข้าใจผิด หลงปลื้มว่า ความสุขจอมปลอมที่ได้รับเพียงชั่วครั้งชั่วคราวนั้น เป็นความสุขที่แท้จริง อะไรคือความสุขที่แท้จริงของมนุษย์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นพบความสุขที่แท้จริงแล้ว ตั้งแต่เมื่อ 2500 กว่าปีก่อนโน้น และได้ทรงอธิบายลักษณะของ ความสุขไว้ว่า ความสุขแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ (1) ความสุขที่ต้องอิงวัตถุ เรียกว่า "อามิสสุข" วัตถุที่ให้ความสุขนั้นอาจเป็นทรัพย์สิน แก้วแหวนเงินทองข้าวของ หรือตัวบุคคลก็ได้ เช่น สามี ภรรยา บุตร ธิดา เป็นต้น กล่าวคือต้องได้ของเหล่านี้มาไว้ในครอบครองจึงจะเป็นความสุข ความสุขชนิดนี้ไม่ถาวร เพราะจะนำความทุกข์ความร้อนใจมาให้ในภายหลัง เช่นความสุขแบบหนุ่มสาวที่ต้องการ มีคู่ครอง พอได้คู่มาแล้วก็ชื่นใจ แต่ไม่นานความทุกข์ก็ตามมา ทุกข์เพราะห่วงกังวลเรื่องการดูแลเอาอกเอาใจ ห่วงแล้วยัง หวงอีก เพราะเกรงจะไปเป็นอื่น คอยหวาดระแวง หวงมากเข้าก็กลายเป็นนึง บางคู่ถึงกับหย่าร้างกัน ทุกข์ที่ตามมาจึง มากกว่าสุขที่ได้รับหลายเท่านัก (2) ความสุขทางธรรม เรียกว่า "สามิสสุข" ความสุขชนิดนี้เป็นความสุขอันแท้จริงของมนุษย์ เป็นความสุขที่ไม่กลับกลายเป็นทุกข์อีก เพราะเป็นที่สิ้นสุดแห่งความทุกข์ทั้งปวง เรียกว่า "นิพพาน"
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More