ความยากลำบากในชีวิตแบบชาวบ้านและการบวช การบรรพชาอุปสมบท หน้า 5
หน้าที่ 5 / 34

สรุปเนื้อหา

บทความนี้พูดถึงความยากลำบากในชีวิตประจำวันของชาวบ้านที่มักต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ไม่สามารถรักษาศีลได้ และความจำเป็นที่ต้องพูดปดเพื่อทำงานตามหน้าที่ แม้ในอาชีพที่ยกย่องสูง เช่น ครูหรือแพทย์ ก็ยังต้องประสบกับความรู้สึกขุ่นมัวจากแรงกดดันของการทำงาน และช่องทางในการรักษาศีลห้าย่อมแคบลง การบวชเพื่อแสวงหาความสงบภายในนั้นยากที่จะทำ ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการบวชต้องมีใจที่แข็งแกร่งและการสนับสนุนจากกัลยาณมิตรและบุญที่สะสมมาอย่างดี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเล่าเรื่องราวการบวชของพระองค์ที่ได้ละทิ้งบ้านเรือนเพื่อค้นหาสัจธรรมและความสงบ.

หัวข้อประเด็น

-ชีวิตชาวบ้าน
-อุปสรรคในการรักษาศีล
-ความสำคัญของการบวช
-แรงกดดันในอาชีพ
-ความสงบภายใน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

5 อธิบายความวา ชีวิตแบบชาวบ้านนั้นคับแคบ ไม่เปิดโอกาสให้ทำความดีได้เต็มที่ ต้องดิ้นรน ปากกัด ตีนถีบ หาเลี้ยงชีวิต บางทีถึงกับ ตองก่อเวร บางคนแม้ตั้งใจรักษาศีล แต่ก็ไม่วายมีเหตุการณ์มาบังคับให้ต้องพูดปด เช่น เป็นเลขาหน้าห้อง มีหน้าที่จัดแขกเข้าพบ ผู้บังคับบัญชา แต่บางวันท่านไม่ต้องการรับแขก จึงสั่งให้บอกคนที่มาขอพบทุกคนว่าไม่อยู่ เลขาฯ ก็จำเป็นต้องพูดปด ตามที่สั่ง ทั้ง ๆ ที่ไม่อยากจะทำ แม้ที่สุดอาชีพที่ชาวโลกยกย่องว่าเป็นอาชีพของนักบุญ เช่น อาชีพครู ซึ่งเปรียบเสมือนแพทย์ทางใจ มีหน้าที่ฝึกฝน อบรมปัญญาทั้งทางโลกและทางธรรมให้แก่ศิษย์ อาชีพแพทย์ซึ่งรักษาความเจ็บป่วยทางกายให้หายมีเรี่ยวแรงทำงานเลี้ยง ชีวิตได้เป็นปกติต่อไป โดยทั่วไปงานเหล่านี้ถือว่าเป็นการสร้างบุญ แต่ทั้งครูทั้งแพทย์ก็ไม่วายมีจิตใจขุ่นมัว เพราะหน้าที่ การงานผลักดัน ยิ่งประกอบอาชีพอื่นด้วยแล้ว ยิ่งหนีไม่พ้น ต้องก่อเวรอยู่เรื่อย ๆ เช่น อาชีพเกษตร ก็ไม่วายต้องฆ่าสัตว์ ฆ่าแมลง อาชีพทหารก็ไม่วายฆ่าคน อาจจะทางตรงหรือทางอ้อม อาชีพพ่อค้า ก็มักหนีไม่พ้นการพูดปดในหลาย ๆ กรณี ช่องทางชีวิตของฆราวาสคับแคบเช่นนี้โอกาสรักษาศีลห้าให้ตลอดรอดฝั่งไปได้แต่ละวันจึงแสนยาก โอกาสจะประพฤติ ธรรม เพื่อหาความสงบภายในก็ยิ่งมีน้อยเต็มที่ แม้จะเห็นคุณค่าของการบวชเต็มเปี่ยมเช่นนี้แล้วก็ตาม การที่คนใดคนหนึ่งจะละทิ้งเหย้าเรือน ครอบครัว ออกบวช ก็ยังทำไม่ได้ง่าย ๆ ต้องอาศัยกำลังใจที่เข็มแข็ง มีกัลยาณมิตรช่วยประคับประคอง และมีกำลังบุญที่สั่งสมมาดีแล้วคอย สนับสนุน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเล่าเหตุการณ์เมื่อครั้งเสด็จออกบรรพชาว่า "เรานี้เมื่อยังหนุ่ม เกศายังดำสนิท บริบูรณ์ด้วยความหนุ่มที่กำลังเจริญยังอยู่ในปฐมวัย มารดาบิดาไม่ปรารถนา จะตามใจ พากันร้องไห้ น้ำตานองหน้าอยู่ เรายังปลงผมและหนวด ครองผ้าย้อมฝาด ออกจากเรือน บวชเป็นผู้ไม่มีเรือนเสียได้" พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพิจารณาเห็นทุกขลักษณะอันไม่แก่นสารเช่นนี้ตั้งแต่ปฐมวัย จึงออกบวช แต่ทุกขลักษณะทั้ง 6 ประการดังกล่าวแล้ว ใช่ว่าใครจะมองเห็นได้โดยง่าย บางคนอายุ 70 ปี เพิ่งได้เห็น บางคนอายุ 20 ปีก็ได้เห็น บางคนอายุ เพียง 7 ขวบก็เห็นแล้ว ในขณะที่บางคนอย่าว่าแต่เห็นเลย แม้เพียงจะคิด ตลอดชีวิตก็ยังไม่เคย
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More