ข้อความต้นฉบับในหน้า
9
ผู้มีปัญญาเฉียบแหลมมาก ท่านได้เพียรพยายามไปบิณฑบาตที่บ้านนาคเสนกุมาร ตั้งแต่กุมารนั้นยังเป็นทารกแบเบาะ
ท่านทำเช่นนี้ทุกวันเป็นประจำติดต่อกัน 7 ปี ทั้งที่ไม่ได้รับภัตตาหารจากบ้านนั้นเลย
ถ้าถามว่าท่านทำอย่างนั้นเพื่อประโยชน์อันใด ก็ตอบว่า ท่านมิได้มุ่งที่ภัตตาหารเป็นสำคัญ แต่มุ่งที่จะให้กุมารน้อย
นาคเสนได้เห็นสมณะทุกวันจนเคยชิน ท่านทราบว่าวิสัยเด็กย่อมอยากรู้อยากเห็นเป็นธรรมดา หากทำให้คุ้นหน้ากันได้
เด็กก็จะกล้าซักถามเรื่องที่สงสัย และเมื่อนั้นท่านก็จะสามารถทำความเลื่อมใสในพระสงฆ์ให้เกิดขึ้นได้ ในที่สุดท่านก็ประสบ
ความสำเร็จ เมื่อกุมารนาคเสนอายุได้ 7 ขวบ กำลังช่างเจรจาและเฉลียวฉลาดผิดกว่าเด็กทั้งหลาย วันนั้นขณะที่พระโรหนะ
ยืนทำที่รอรับบิณฑบาตอยู่หน้าประตูบ้านเช่นทุกวัน กุมารนาคเสนได้เข้ามาหาท่านแล้วถามขึ้นอย่างซื่อ ๆ ว่า
"ทำไมผมและหนวดของท่าน จึงไม่เหมือนคนทั้งหลาย ท่านได้อุบายเห็นคุณและโทษประการใดหรือจึงโกน
ผมและหนวดทิ้งเสีย"
พระโรหนะดีใจมากที่กุศโลบายของท่านสัมฤทธิ์ผลสมความมุ่งหวัง ท่านตั้งใจอธิบายเหตุผลแก่กุมารน้อยอย่างละเอียด
ลออ ไม่รวบรัดตัดความ และยังประกอบด้วยนัยยะที่ถูกอัธยาศัยของคนมีปัญญาเฉียบแหลม เช่นกุมารนาคเสน อีกด้วย
ท่านกล่าวว่า
"อาตมาต้องการละเสียซึ่งปลิโพธิ คือ ความกังวล 16 ประการ อันได้แก
1. ความกังวลในการเลือกอาภรณ์ผ้านุ่งห่ม ให้รับกับใบหน้าและทรงผม
2. ความยุ่งยากในการหาเครื่องประดับ ตกแต่งร่างกายให้เข้าชุดกัน
3. ความกังวลในการไปมาหาสู่ช่างทอง ทำเครื่องประดับ
4. ความยุ่งยากเสียเวลาในการขัดสี
5. ความสาละวนวุ่นวาย ในการเก็บงำสิ่งของทั้งปวงเหล่านั้น
6. ความกังวลในการชกลาง
7. การหาดอกไม้มาทัดทรงและแซมผมตามสมัยนิยม
8. การเที่ยวหาของหอมมาชะโลมทา
9. การหาของอบ ของรม
10. ความกังวลในการหาผลสมอ
11. ความกังวลในการหามะขามป้อม
12. ความกังวลในการหาดิน มาผสมคลุกเคล้ากับสมอและมะขามป้อมเพื่อทำเป็นยาสระผม
13. การมัวกังวลหาไมกลัดผม
14. ความเสียเวลาในการมุนผม