ข้อความต้นฉบับในหน้า
ณ วัดสองพี่น้อง พระเดชพระคุณหลวงปู่เรียนหนังสือไทยและขอขอบพระเกียรู้นำชายนั้น ตอบพระน้าชายสาลิกา ท่านจึงย้ายไปเรียนต่อที่วัดบางปลา อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม จนสามารถอ่านเขียนทั้งหนังสือไทยและขอได้อย่างคล่องแคล่ว การเล่าเรียนหนังสือไทยและขอเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อคุณครูทั้งหลายในยุคนั้น ซึ่งจะต้องบรรชาชอุปสมบทตามประเพณีของชาวไทย เพราะจะทำให้สามารถอ่านจากในภาษาและศึกษาความรู้ในพระไตรปิฎกที่ส่วนใหญ่จาร่ำใว้ด้วยอักษรขอมได้
๑ เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว พระเดชพระคุณหลวงปู่ช่วยบิดาบูชาอาริยะข้าว ต้อม ฯ คณะท่านอายุได้ ๑๕ ปี บิดาของท่านถึงแก่กรรม ท่านเป็นบุตรชายคนโตจึงต้องรับช่วงทำธุรกิจค้าข้าว และสามารถร่างสร้างตัวจนมีฐานะดีพอสมควรทั้งที่ยังเยาว์ ไนปี พ.ศ. ๒๔๙๑ เมื่อพระเดชพระคุณหลวงปู่มีอายุได้ ๑๙ ปี วันหนึ่งท่านเดินทางกลับจากการค้าข้าว ขณะที่ท่านเรือเปล่ากลับบ้าน ต้องผ่านคลองที่มีโจรชุมและเปลี่ยวมาก เสี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกขณะ นังเรือไปกระแวะเวรระวังอันตรายไปตลอดทาง เมื่อผ่านพันอันตรายมาแล้ว ท่านก็มีความคิดว่า การหาทางหนีทางเป็นเรื่องที่ลำบากจริง ๆ ต่างคนต่างหา ไม่มีเวลาหยุดด้วยกันทั้งนั้น ถ้าใครไม่รีบร้องให้มีงี่มีไม่ใครนิว้าและคนหา บรรพบุรุษของท่านก็ทำมาตั้งแต่รั้งนั้นเหมือนกัน แต่ขณะนี้บรรพบุรุษย้ายไปหมดแล้ว และตัวท่านก็จะต้องตายเหมือนกัน บิดาที่ตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้เลย เสื้อผ้า ข้าวของ หรือแม้แต่ท่าน พี่น้องของท่าน และแม่ของท่าน ก็ไม่ได้ไปด้วยเลย คิดดังนี้แล้ว พระเดชพระคุณหลวงปู่เกิดธรรมสังเวช อยากออกบวชเพื่อแสงหาทางพ้นทุกข์ ท่านจึงจุดบูชาพระ และตั้งจิตอธิษฐานจุติศีลอดแต่พระศาสนาว่า “อย่าให้เราตายเสียดีกว่า ขอให้ขอเสียก่อน ถ้าขอแล้วไม่สิ้นคนตลอดชีวิต” หลังจากนั้นจิตอธิษฐานว่าจะออกบวชตลอดชีวิตแล้ว พระเดชพระคุณหลวงปู่ตั้งใจทำมหากิณีต่อไป รวมเวลาที่ทำอาชีพค้าข้าวได้ ๑ ปี สามารถสะสมเงินได้มากพอสมควร และต่อมาท่านมอบเงินจำนวนนี้ให้มารดาเก็บไว้เป็นทุนเลี้ยงชีวิต จะได้ออกบวชอย่างไม่มีกังวล