ข้อคิดเกี่ยวกับคุณค่าของมนุษย์และสัตว์ : หน้า 91/132

ซื้อหลงพ่อให้ข้อคิดดีๆเขาไปตั้งแต่เริ่มต้นว่าคนเหมือนกัน เกิดเป็นคนต่างมีคุณค่า คนเราไม่ว่าจะนับถือศาสนาไหน เป็นชนชาติใดก็ตามช่างเถิด เขาเป็นคน เราเป็นคน แล้วก็เมืองคู่ประกอบเหมือน ๆ กัน คือ • มีอายที่ประกอบด้วยเลือดด้วยเนื้อเหมือนกัน • มีจิตใจกันนั้น ถ้าใจไม่ใส แล้วไม่ได้สร้างบาปมาเท่า ไม่ได้เกิดเป็นคนหลอกในโลกนี้ถ้าเราเทียบกันระหว่างจำนวนมนุษย์กับสัตว์ทั้งหลาย เมื่อเทียบกันแล้วจำนวนมนุษย์น้อยกว่าสัตว์ตั้งเยอะ อย่าว่าแต่เทียบกันกับโลกเลย เอาแค่เทียบบ้านตัวเอง จำนวนคนในบ้านต่อให้ครอบครัวใหญ่มีมีสิบคน แต่เมื่อบ้นในบ้านก็สัตว์ในบ้านดู บางคนอาจจะบอกว่าที่บ้านไม่เลี้ยงสุนัข ไม่เลี้ยงแมว แล้วคุณเคยนับไหมว่าที่บ้านมีกี่ตัว จึงก็ดี่ ตัวแก่ตัวลูกกี่ตัว มงดน ๆ กี่ตัว ถ้าอย่างนี้ก็จะเห็นได้ว่าระหว่างมนุษย์กับสัตว์เทียบยังไงก็ไม่ใกล้ไม่ว้างบ้านไหนสัตว์ก็จะมากกว่าคน ไม่ว่าในประเทศไหน ๆ สัตว์ก็ต้องมากกว่ามนุษย์ชิดเทียบกันในโลกทั้งใบ สัตว์ก็มีมากกว่ามนุษย์ชนิดเทียบกันไม่ใกล้เลย ระหว่างมนุษย์กับสัตว์ เมื่อเกิดมาแล้วอย่างไงจะสร้างคุณประโยชน์ให้กับตัวเอง สร้างคุณประโยชน์ให้กับโลกได้มากกว่ากัน ใครที่มีชอบเป็นกลางก็อธิษฐานเหนื่อยไหมมนุษย์ก็สร้างคุณประโยชน์ให้กับตัวเองให้กับโลก ให้กับโลกใบนี้ได้มากว่าสัตว์เป็นแน่แท้ ถามว่าการเกิดมาเป็นมนุษย์กับการเกิดเป็นสัตว์ อย่างไหนจะโชคดีกว่ากัน? ถึงอย่างไรมนุษย์ก็โชคดีกว่าสัตว์อย่างแน่นอน การที่จะเกิดเป็นมนุษย์ เกิดเป็นสัตว์ ขึ้นอยู่ขะอะไร? ในศาสนาอื่นเขาบอกว่า ศาสดาของเขาสอนว่าใครจะเกิดมาเป็นมนุษย์ ใครจะเกิดมาเป็นสัตว์ นี้อยู่กับความปรารถนาของผู้สร้างโลกที่เขาบอกไว้ ในพระพุทธศาสนา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนไว้ว่า ทั้งคนและสัตว์มีส่วนที่เหมือนกัน คืออวัยวะสุขเกลื่อนดูกัน คนพูดง่ายๆ สัตว์ไม่ได้ สัตว์พูดภาษาคนไม่ได้ แต่ได้จากลักษณะท่าทางของเขาก็รู้ว่า รักสุขแล้วเลิกทุกข์เหมือนกัน ในพระพุทธศาสนา พระบรมศาสดาทรงเป็นผู้ค้นพบความจริงของสรรพสิ่งทั้งหมดในการค้นพบนี้ ทรงค้นพบจากการทำสมาธิ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราทรงฝึกพระองค์อย่างนี้ ทรงทำสมาธิเพื่อให้ใจใส ๆ ส่วนระยะเวลาที่ฝึกก็ไม่ได้เป็นเดือน ไม่ใช่แค่เป็นเดือน แต่ทรงฝึกสมาธิอย่างต่อเนื่องมานานนับสิบปี แมในชาติสุดท้ายก็ทรงฝึกนานหลายปี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงรู้ความจริงของสิ่งทั้งอย่างโดยอานุภาพากรรมให้ใจใส ๆ พอใจแล้วจะว่า สังเกตุความจริง พระพุทธองค์ทรงบอกว่า คนทุกคน นั้นคราวละโลกไปยังชีวิตหลังความตาย ได้ตายแล้วสูญ ถ้าตั้งใจทำความดี ความดีทำได้จะส่งผลให้เปลี่ยนตัวเองจากคนไปเป็นเทวา นางฟ้า ไปอยู่ในภูมิใหม่ที่เรียกว่า สวรรค์ คนที่ทำไม่ดี ตายแล้วย่อมไม่สูญ แต่ผลของความลาเวาะส่งเขาไปอยู่ในภูมิที่เดือดร้อน ไปอยู่แล้วเป็นทุกข์ เรียกว่านรก