ความเข้าใจเกี่ยวกับการทอดผ้าฉันและกฐินในพระพุทธศาสนา วารสารอยู่ในบุญประจำเดือน กันยายน พ.ศ.2557 หน้า 95
หน้าที่ 95 / 132

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงการถวายผ้าฉันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาต โดยการถวายสามารถทำได้เฉพาะในเวลา ๑ เดือนหลังวันออกพรรษา เรียนรู้ถึงความแตกต่างระหว่างกฐินและผ้าป่าในแต่ละยุคสมัย โดยมีพิธีกรรมและของถวายที่แตกต่างกันในแต่ละท้องถิ่น แต่หลักการยังคงอยู่ เช่น การกำหนดรูปแบบการถวายและพิธีจากคณะสงฆ์ ศึกษาเรื่องราวเหล่านี้เพื่อเข้าใจถึงการทำบุญอย่างถูกต้องและมีความหมายในพระพุทธศาสนา

หัวข้อประเด็น

-การทอดผ้าฉัน
-การถวายกฐิน
-ผ้าป่าและเงื่อนไขการถวาย
-พิธีกรรมในพระพุทธศาสนา
-ความสำคัญของวัดและพระสงฆ์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

แก้ตัวเป็นลูกฉบับไม่ใช่แบบนี้ การถวายผ้าฉันเป็นสิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ถวายแก่พระภิกษุในวันที่พระราชพุทธครบ ๙ รูป ตลอดพระพุทธ ๓ เดือน และถวายได้ภายในเวลา ๑ เดือน นับตั้งแต่วันออกพรรษา คือ ตั้งแต่วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ถึงวันที่ ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ คือวันลอยกระทงนั้นเอง หมายความว่า พระภิกษุสามารถรับผ้าฉันได้เฉพาะในเวลาหนึ่งเดือนนี้เท่านั้น ไม่สามารถรับทั้งปี การทอดผ้าฉันจึงถือว่าเป็นกาลทาน คือเป็นทานที่จำกัดด้วยเงื่อนไขของเวลา ไม่ได้ทำได้ตลอดเวลา แล้วจึงทำได้เฉพาะกับพระภิกษุในวันที่พระองค์ทรงอนุญาตให้รับผ้าฉันในช่วงนั้นเท่านั้น หากวัดไหนมีพระสัก ๓-๔ รูป ก็รับผ้าฉันได้ แต่ถ้าเป็นการทอดผ้าป่าสามารถทำได้ นอกจากวัดนี้ยังรับฉันได้แต่ละครั้งเดียวเท่านั้น แต่ผ้าป่าจะทอดกี่ครั้งก็ได้ กฐินและผ้าป่ามีพิธีกรรมและสิ่งของที่ถวายเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไรในแต่ละยุคสมัย? ในแน่งหลักการสำคัญก็ต้องคงเดิมเอาไว้ แต่รูปแบบพิธีการหรือข้าวของที่ถวายอาจจะแตกต่างกันไปตามท้องถิ่นบ้าง แต่หลักการของผ้าป่าเป็นอย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ส่วนรูปแบบของกฐินนั้นจะไม่ปรากฏแน่หรือประเด็นได้ แต่ต้องไปวัดไว้หน้าคณะสงฆ์ เสร็จแล้วคณะสงฆ์ต้องมีการอปโลกนกฐิน คือ ตั้งพัดแล้วตีแกงสงฆ์ ๑ รูป จะกล่าวว่า "ผ้ากฐินทานกับทั้งผ้าถุงสงฆ์รวมทั้งงวดนี้ เป็นของบริสุทธิ์ประดุจเสน่ห์ลอยมาจากท้องนภากาศ แล้วตกลงในท่ามกลางสงฆ์" มิได้เฉพาะเจาะจงแก่กิฐรูปหนึ่งรูปใด แต่พระสงฆ์ต้องมีการอปโลกนกฐิน คือ ตั้งพัดแล้วตีแกงสงฆ์ ๑ รูป จะกล่าวว่า "ผ้ากฐินทานกับทั้งผ้าถุงสงฆ์รวมทั้งงวดนี้ เป็นของบริสุทธิ์ประดุจเสน่ห์ลอยมาจากท้องนภากาศ แล้วตกลงในท่ามกลางสงฆ์" มิได้เฉพาะเจาะจงแก่กิฐรูปหนึ่งรูปใด แต่พระสงฆ์ต้องมีการอปโลกนกฐิน คือ ตั้งพัดแล้วตีแกงสงฆ์ ๑ รูป จะกล่าวว่า "ผ้ากฐินทานกับทั้งผ้าถุงสงฆ์รวมทั้งงวดนี้ เป็นของบริสุทธิ์ประดุจเสน่ห์ลอยมาจากท้องนภากาศ แล้วตกลงในท่ามกลางสงฆ์"
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More