ข้อความต้นฉบับในหน้า
ตั้งครึ่งโลก ทำบุญฆ่าความตระหนี่ได้มากเท่าไร ดวงบุญก็โตมากขึ้นเท่านั้น
บุญสะสมไว้ในใจ สะสมอย่างไร
ท่านอุปมาดังไฟฟ้าชาร์จใส่แบตเตอรี่ พลังไฟฟ้าเก็บไว้ได้อย่างไร บุญที่เราสร้างก็เก็บไว้ในใจได้อย่างนั้น
ทำบุญมาก ๆ เข้า บุญก็รวมกันเป็นดวงโตขึ้นดวงบุญประมาณเส้นผ่าศูนย์กลางหนึ่งคืบ ก็กลั่นเป็นบารมีประมาณ
เส้นผ่าศูนย์กลางหนึ่งนิ้ว สะสมบารมีต่อไป เมื่อดวงบารมีโตประมาณหนึ่งคืบ ก็กลั่นเป็นดวงอุปบารมีประมาณหนึ่งนิ้ว
สะสมอุปบารมีต่อไป เมื่อดวงอุปบารมีโตประมาณหนึ่งคืบ ก็กลั่นเป็นดวงปรมัตรบารมี ประมาณหนึ่งนิ้ว สะสมปรมัตร
บารมีต่อไปอีก ดวงปรมัตรบารมีจะกลั่นเป็นรัศมี ดวงรัศมีจะกลั่นเป็นกำลัง เป็นฤทธิ์ ตามสัดส่วนที่มากขึ้น
อย่างนี้เรียกว่า ทานบารมี ถ้าเห็นธรรมกายแล้ว ก็จะรู้ จะเห็น จะเข้าใจเอง
ถ้าเปรียบง่าย ๆ กับทางโลก เวลากลั่นน้ำมัน กลั่นสารเคมี เขากลั่นเป็นชั้น ๆ อย่างไร บุญที่อยู่ในตัวเรา
ก็กลั่นเป็นขั้นแบบเดียวกัน เอ๊ะ...แล้ว เมื่อไรจะเห็นสักที ก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ถ้าขยันนั่งสมาธิ นั่งมาก จนได้ถึง
ธรรมกายเร็ว ๆ ก็จะรู้ว่ากลั่นอย่างนี้ แต่กลั่นไม่เหมือนกัน โรงกลั่นน้ำมัน ที่บางจากนะ กลั่นคนละอย่าง กลั่นในใจ
เมื่อมีบุญบารมีมากดีอย่างไร
ข้อดีก็คือ กิเลสก็จะถูกปราบไป กิเลสมันกลัวบุญ...กลัวบารมีเหมือนอย่างความมืดกลัวไฟฟ้า กลัวดวงอาทิตย์
ฉะนั้นเมื่อฆ่าความตระหนี่ได้ก็จะได้ทานบารมี
มีปัญหาว่า ถ้าเราเป็นคนร้ายกาจ ใครมาแหยมไม่ได้เลย ทำทานบารมีไม่ค่อยได้ ใจมันแคบนิดเดียว จะทำอย่างไร
ก็ต้องรักษาศีล รักษาศีล 5 ข้ามวัน ดวงบุญก็สว่างขึ้นมาวูบหนึ่ง สักแค่แสงจากลูกนิ่งห้อย รักษาศีล 8 ข้ามวัน
ก็สว่างขึ้น อย่างแม่นิ่งห้อยก็แล้วกัน รักษาศีล 10 ข้ามวัน สว่างวูบหนึ่ง...ขนาดหัวไม้ขีดไฟ รักษาศีล 227
ของพระ...วูบนี้โตหน่อย สว่างเหมือนจุดเทียน, จุดได้ละ! สะสมกันไป บุญสะสมมากเข้าก็กลั่นเป็นบารมี เรียกว่า
ศีลบารมี
บารมีกลั่นมากเข้า ก็เป็นอุปบารมี อุปปารมีกลั่นมากเข้า ก็เป็นปรมัตถบารมีปรมัตถบารมี กลั่นเป็นรัศมี
รัศมีกลั่นเป็นกำลัง เป็นฤทธิ์ ตามสัดส่วนที่มากขึ้น ถึงตอนนี้ใจมันจะสว่างเปิดโล่ง อยากสร้างบารมีอย่างอื่น
เพิ่มขึ้นมาเอง
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สะสมความดีไว้มาก ทรงระลึกชาติและตรัสเล่าไว้ว่าตลอดภพชาติอันยาวนานในอดีต
ทรงสะสมบุญบารมีไว้ถึง 10 อย่าง เรียกว่า ทศบารมี ดังนี้
8