การเตรียมตัวเผชิญความตายและการปฏิบัติธรรม : หน้า 18/44

โยมน้าตอบว่า "หมอตรวจว่าเป็นเบาหวาน น้ำตาลสูงมาก อายุขนาดนี้รักษาหายยาก เป็นเบาหวานน้ำตาล ในเลือดสูง ๆ อย่างนี้ให้อดอาหารมื้อเย็น น้ำตาลในเลือดอาจตกฮวบฮาบ อาจช็อคตายได้ ดูนะ โอกาสที่จะทําความดีมีอยู่ไม่มากนักหรอก ในตัวเรานี้ขอผลัดหลวงพ่อ 2 ปี ผลสุดท้ายจะต้องไปรบผลัด กับยมบาลแล้วที ฉะนั้นใครที่อายุ 30,40 ปีแล้วไม่ถือศีล 8 ผลัดกับหลวงพ่อนั้นผลัดได้นะแต่ผลัดกับยมบาล ผลัดไม่ได้นะ เดือนไว้ก่อน รีบ ๆ รักษาศีลเสียนะ ศีล 8 ดี ศีล 5 ทีดี การฝึกสมาธิก็ดี การให้ทาน การปฏิบัติธรรมทุกรูปแบบที่ดี รีมทาเสียตั้งแต่ตอนนี้ ก่อนที่โรคจะถามหา พระสิทธัตถะราชกุมายังทรงพิจารณาต่อไปอีกว่า “ภิกษุทั้งหลาย ปุถุชนที่ไม่ได้ยินได้ฟัง ทั้งที่ตัวเองจะต้องตาย ล่วงพ้นควายไปได้ ครั้นเห็นคนอื่นตายติดหนาระอาใจ สะอิดสะเอียน ไม่นึกถึงตัวเองเลย ถึงตัวเราเองก็ เหมือนกัน จะต้องตาย ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้ แต่ว่าเมื่อจะต้องตายไม่ล่วงพ้นความตายไปได้แล้ว" จะมาลืมตัว อิดหนาระอาใจสะอิดสะเอียน เมื่อเห็นคนอื่นตายนั้น ไม่เป็นการสมควรแก่เรา ภิกษุทั้งหลาย เมื่อเราได้พิจารณาเช่นนี้ ความมัวเมาในชีวิต ความเป็นอยู่ของเรา ก็หายไปน บางคน งานศพไม่ไป เพราะอ้าวว่าไปแล้วเศร้าหมอง แต่ตรงกันข้ามนะ เมื่อก่อนหลวงพ่อบวช คุณยายอาจารย์อนุญาติให้หลวงพ่อไปงานได้ 2 งานคือ 1. งานศพ 2. งานบวช เพราะอะไร เพราะการพิจารณาถึงศพก็ดี พิจารณาความตาย ดี ถ้าพิจารณาเ น. ว จะเกิดประโยชน์ ได้ขอลดมาก ได้คิดว่าไม่ช้าเราก็ตาย ที่โกรธกันไว้ ไม่รู้จะโกรธไปทำไม ที่โลภโกยเอาไว้ ตายแล้วก็เอาไปไม่ได้ จะอิจฉาตาร้อน จะเสี่ยเขาเก้าอี้ จะแทงกันสับหลังทำไมก็เหนื่อยเปล่า ร้อนใจเปล่า สําหรับพระภิกษุ มี ปฏิบัติอยู่หมวดหนึ่ง เรียกว่า กัมมัฏฐาน การนึกถึงศพ 10 ประการ ได้แก่ -จากศพที่รัน ด จากศพ ทน น แล้ว 18