การฝึกสมาธิและความเข้าใจในความเจ็บไข้ ความยิ่งใหญ่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หน้า 17
หน้าที่ 17 / 44

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเกี่ยวข้องกับการฝึกสมาธิที่เริ่มต้นตั้งแต่อายุ 16 ปี ว่าความเมื่อยล้าเกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมชาติและยิ่งเมื่ออายุมากขึ้น ความเจ็บไข้ไม่ได้เสื่อมสลาย การเข้าใจว่าทุกคนต้องเผชิญกับปัญหาเจ็บไข้และการควรเริ่มปฏิบัติธรรมเมื่อยังสามารถทำได้ โดยไม่ควรมัวเมาในความไม่มีโรคและการเตรียมตัวรับมือกับสภาพร่างกาย ความรักและการดูแลจากผู้อื่นในยามเจ็บไข้ก็เป็นสิ่งสำคัญ

หัวข้อประเด็น

-การฝึกสมาธิ
-ความเข้าใจในโรคภัย
-มุมมองของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
-การเตรียมตัวสำหรับความเจ็บไข้
-การดูแลจากครอบครัวและเพื่อน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

17 ใครที่คิดว่า เรานี่ยังหนุ่มอยู่ ยังสาวอยู่เข้าวัดเร็วไปละก็อย่าคิดนะ หลวงพ่อฝึกสมาธิตั้งแต่อายุ 16 ปี นั่งไปแล้ว นึกไป โอ้โฮเมื่อยจริง ๆ เลย โอ๊ย...ทำไมเมื่อยอย่างนี้นะเรา เอาละนั่งคิดไปเรื่อย ๆ พออายุมากคงหายเมื่อยเอง เดี๋ยวนี้อายุ 47 ปี ฝึกสมาธิได้ 30 ปี พบแล้วว่าระยะที่เมื่อยน้อยที่สุดคือ เมื่ออายุ 16 ปีนั่นเอง เพราะฉะนั้นใครที่คิดว่า ผมยังหนุ่ม ฉันยังสาวอยู่ ยังไม่ต้องเข้าวัดหรอก ยิ่งโง่ใหญ่เลย นับวันจะมีแต่เมื่อยมกาขึ้น มีแต่งมงามมากขึ้น แต่สำหรับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เนื่องจากพระองค์พิจารณาเช่นนี้ ฉะนั้นความมัวเมาใน ความหนุ่มสาวพวกเรานี่ ท่านไม่มีเลย เพราะอะไร เพราะท่านฝึกพระองค์ข้ามภพข้ามชาติดีแล้ว ท่านยังพิจารณา ต่อไปอีกว่า "ภิกษุทั้งหลาย ปุถุชนที่มิได้ยิน ได้ฟังธรรม ทั้ง ๆ ที่จะต้องเจ็บไข้ ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไม่ได้ ครั้นเห็นคนอื่น เจ็บไข้ ก็อิดหนาระอาใจ สะอิดสะเอียน ไม่นึกถึงตัวเองเลยว่าถึงตัวเราเองก็เหมือนกัน จะต้องเจ็บไข้ ไม่ล่วงพ้น ความเจ็บไข้ไปได้ แต่ว่าเมื่อจะต้องเจ็บไข้ ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้แล้ว จะมาลืมตัว อิดหนาระอาใจ สะอิดสะเอียน เมื่อเห็นคนอื่นเจ็บไข้นั้น ไม่เป็นการสมควรแก่เราเลย" "ภิกษุทั้งหลาย เมื่อเราพิจารณาได้เช่นนี้ ความมัวเมาในความไม่มีโรคของเรา ก็หายไปหมดสิ้น" ในชีวิตทั่วไปหลาย ๆ คนก็ได้เห็นพรรคพวก เพื่อนฝูงที่เจ็บไข้ได้ป่วยมาแล้ว บางคนพอรู้ว่าเมียเป็นมะเร็ง ก็ทิ้งเลยเตรียมหาใหม่ดีกว่า บางคนพี่น้องกัน พอป่วยก็ทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ไม่ดูแล ยกเว้นคนไม่กี่คนที่ดูแลด้วยความรัก ความสงสารอยากให้หายเร็ว ๆ อย่าป่วยไข้ต่อไปอีกเลย แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อทรงเห็นคนอื่นเจ็บไข้ ก็กลับย้อนมาดูตัวเองว่า เออ...เราก็เลือดเนื้อ เหมือนกับคนอื่น มีโอกาสจะป่วยไข้เหมือนคนอื่นได้ เพราะฉะนั้นจะทำอย่างไร จะต้องรีบปฏิบัติธรรมเร็ว ๆ ก่อนที่ความป่วย ความไข้ จะมาถึง ไม่บอกว่าฉันยังแข็งแรงอยู่ เอาเถอะ ไว้แก่ ๆ หน่อยแล้วค่อยนั่งสมาธิ สำหรับเรื่องนี้ หลวงพ่อมีเรื่องส่วนตัวนิดหนึ่ง มีโยมน้าคนหนึ่ง ซึ่งคุ้นเคยกัน พอหลวงพ่อบวชก็ชวนแกเข้าวัด "โยมนา เขาวัดเถอะ อย่างน้อยวันพระไปถือศีล 8 นะ ถืออุโบสถศีล" โยมน้าก็บอกว่า "มีงานต้องรีบทำอย่างหนึ่ง อีกสักปีสองปีก็จะเสร็จ เสร็จเมื่อไรก็จะเข้าวัด" รุ่งขึ้นอีกปีก็เตือนว่า "น้าได้เริ่มไปถือศีลบ้างหรือยัง ไปเดือนละครั้งก็ยังดี" โยมน้า หน้าจอยเลย ท่าน! โยมน้าหมดสิทธิ์เสียแล้ว ชาตินี้ อ้าว! ทำไมล่ะ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More