ข้อความต้นฉบับในหน้า
41
1. อายุกับหมายถึง อายุไขยของสัตว์ที่เกิดในภูมินั้น ๆ เช่น ในโลกมนุษย์เรานี้ เมื่อสมัยพุทธกาล คนส่วนใหญ่
อายุ 100 ปี ก็นับเอา 100 ปีเป็นอายุกัป ปัจจุบันอายุไขยของมนุษย์มีประมาณ 75 ปี ก็นับเวลา 75 ปี เป็นอายุกัป
ๆ
2. อันตรกัป มีวิธีนับดังนี้ คือเมื่อสมัยต้นกัป มนุษย์อายุยืนถึงอสงไขยปี ต่อมาค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ จนถึง 10 ปี
แล้วอายุค่อยเพิ่มขึ้นอีกเรื่อย ๆ จนถึงอสงไขยปีอีก ครบเวลาอายุไขยลง และอายุไขยขึ้นคู่หนึ่ง เรียกว่า หนึ่งอันตรกัป
3. อสงไขยกัป จํานวนเวลาของอันตรกัป 64 อันตรกัป เรียกว่า หนึ่งอสงไขยกัป
อสงไขยกัปมี 4 อยางคือ
3.1 สังวัฏฏอสงไขยกัป ระยะเวลาที่จักรวาลแสนโกฏิจักรวาลกำลังทำลายอยู่
3.2 สังวัฏฏฐายีอสงไขยกัป คือระยะเวลาที่จักรวาลถูกทำลายหมดสิ้น ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย
มีแต่ความว่างเปล่า
3.3 วิวัฏฏอสงไขยกัป เมื่อจักรวาลถูกทำลายจนหมดไปแล้ว นับเวลาที่เริ่มตั้งขึ้นใหม่
คือกัปที่กำลังเจริญขึ้นไปตามลำดับ
3.4 วิวัฏฏฐายีอสงไขยกัป คือระยะเวลาที่จักรวาลเริ่มตั้งขึ้นใหม่จนตั้งขึ้นเรียบร้อยเป็นปกติ ตามเดิมทั่ว
แสนโกฏิจักรวาล มีพื้นแผ่นดิน ภูเขา แม่น้ำ ต้นไม้ มหาสมุทร พระอาทิตย์ พระจันทร์ คน
สัตวพรอมหมด
4. มหากัป ระยะเวลา 4 อสงไขยกัปเรียกว่า หนึ่งมหากัป ระยะเวลาในมหากัปหนึ่ง ๆ นั้นนานมาก
ไม่สามารถกำหนดประมาณได้ อุปมากันเอาไว้ว่า มีพื้นดินกว้างยาวละ 100 โยชน์ เอาเมล็ดพันธุ์ผักกาดไปกองไว้ให้เต็ม
ครบกำหนด 100 ปี หยิบเอาไปทิ้งเสีย 1 เมล็ด เวลานานกระทั่งเมล็ดผักกาดหมด กระนั้นก็ยังไม่ครบเวลาของหนึ่งมหากัป
10. ขันธ์ 5
ได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน
11. เราย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริง
พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนความจริงไว้ 4 ประการ คือ
1. ความจริงเรื่องทุกข์คืออะไร
2. ความจริงเรื่องสาเหตุของทุกข์คืออะไร
3. ความจริงเรื่องความดับทุกข์คืออะไร