ข้อความต้นฉบับในหน้า
30
ในการประกาศศาสนา หรือการเผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระองค์ ตั้งแต่ตรัสรู้แล้วนั้น ทรงอุทิศเวลาตลอด
พระชนม์ชีพเพื่อปลดเปลื้องทุกข์ของสัตว์โลก ด้วยพระกรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ เป็นแบบฉบับศาสดาที่วิเศษสุดในโลก
ทรงแบ่งงานของพระองค์เป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ ไม่ให้น้อยหน้ากันคือ
ส่วนที่หนึ่ง เกี่ยวกับพระญาติ
ส่วนที่สอง เป็นของชาวพุทธทั้งหลาย ซึ่งเริ่มจากบุคคลคนเดียวจนเพิ่มเป็นพุทธบริษัท 4 อันประกอบด้วย
พระภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา
ส่วนที่สาม เป็นของชาวโลกทั่วไป ซึ่งบุญบารมียังไม่แก่กล้าพอที่จะติดตามพระองค์ไปได้ พระองค์ก็เพียงโปรด
เพียงสอนไปตามกำลังที่เขาจะรับได้
ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของมนุษย์ชาติ ยังไม่เคยมีศาสดาองค์ใดที่แบ่งงานได้สมบูรณ์แบบดังพระองค์ท่าน
จนได้รับฉายา อย่างที่เราสวดมนต์สรรเสริญพระพุทธคุณอยู่ทุกวันนี้ว่า ปุริสธรรมสาระถิ คือเป็นสารถีนักฝึกคนที่
เยี่ยมที่สุดในโลก สัตถาเทวะมนุสสานัง คือเป็นครูสอนได้ทั้งเทวดาและมนุษย์ ยังไม่มีศาสดาองค์ใดทำได้ แต่พระองค์
ท่านก็ทําได้
เสด็จดับขันธปรินิพพาน
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราทรงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ พระองค์ทรงเผยแผ่พระธรรมคำสอนขัดเกลา
กิเลสมนุษย์โลก โดยไม่หยุดยั้งต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลายาวนานถึง 45 พรรษา เมื่อถึงคราวจะเสด็จดับ
ขันธปรินิพพานก็ยังเหนือกว่าศาสดาใด ๆ ในโลก คือทรงรู้วาระที่จะดับขันธ์ล่วงหน้าถึง 3 เดือน ทรงประกาศล่วงหน้า
เลยวา
สาวกทั้งหลาย อีก 3 เดือนข้างหน้าจะถึงกำหนดที่เราต้องดับขันธ์แล้ว ฉะนั้นภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา
ผู้ใดมีอะไรสงสัยในธรรมะจงมาถามเราเถิด สั่งอย่างนี้แล้วก็เสด็จออกประกาศพระศาสนาต่อไปไม่หยุดพัก เสด็จผ่าน
เมืองสำคัญ แหล่งสำคัญที่มีประชาชนอยู่กันมาก ทรงเทศน์โปรดผู้ที่มีกำลังบุญพอที่จะตรัสรู้ธรรมได้ เพื่อให้เป็นกำลัง
สำคัญ ในการประกาศพระศาสนาแทนพระองค์ สำหรับพระอรหันต์รุ่นแรก ๆ พระองค์ก็สั่งว่า เมื่อเราจากพวกเธอไปแล้ว
เธอจะต้องจัดหมวดหมู่ธรรมะที่เราสอนไว้ให้ดี พูดง่าย ๆ ก็คือ สั่งให้ทำพระไตรปิฎก เราจึงได้พระไตรปิฎกไว้เป็นหลักฐาน
จนถึงทุกวันนี้ ที่เหนือกว่านั้นคือ ก่อนที่จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระองค์ได้ทรงสรุปคำสอนไว้ให้อย่างยอดเยี่ยม