การบรรลุธรรมและอาสวะกิเลสในพระพุทธศาสนา ความยิ่งใหญ่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หน้า 27
หน้าที่ 27 / 44

สรุปเนื้อหา

ข้อความนี้อธิบายถึงการบรรลุธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยเน้นที่การพ้นจากอาสวะกิเลสและวิชชาที่พระองค์ได้เกิดขึ้นหลังจากตรัสรู้ พระองค์ได้ทำการวิเคราะห์และพิจารณาเพื่อมอบความรู้แก่ศิษย์ พร้อมทั้งอธิบายถึงทางแห่งการหลุดพ้น และการวิมุติสุขที่พระองค์ประสบในช่วง 7 สัปดาห์หลังจากตรัสรู้ เป็นการสร้างแรงบรรดาลใจให้กับผู้ที่มุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรมเพื่อการหลุดพ้นจากทุกข์ โดยมีผลสำเร็จที่เกิดจากการทำตามคำสอนที่ได้รับการเผยแผ่โดยพระองค์

หัวข้อประเด็น

-อาสวะกิเลส
-การตรัสรู้
-วิชชา 3
-การหลุดพ้น
-การเผยแผ่ศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

27 มนุษย์ที่สะสมกิเลสไว้มาก ภาษาพระเรียกว่า "อาสวะกิเลส" ทรงอธิบายถึงการบรรลุธรรมตามลำดับของพระองค์ ต่อไปว่า "เรานั้นเมื่อตั้งมั่น บริสุทธิ์ผ่องใสปราศจากกิเลสเป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรต่อการงานถึงความไม่หวั่นไหว ตั้งอยู่เช่นนี้แล้วก็ น้อมจิตไปเฉพาะต่ออาสวักขยญาณ เราย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้เหตุแห่งทุกข์ คือสมุทัย นี้ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ คือนิโรธ นี้ความให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ คือมรรค อันประกอบด้วยองค์ 8 เรารู้ด้วยว่า นี้เป็นอาสวะทั้งหลาย นี้คือความดับไม่เหลือแห่งอาวสะทั้งหลาย คือ นิโรธ เมื่อเรารู้อย่างนี้ เป็นอยู่อย่างนี้ จิตพ้นจากกามอาสวะ คือพ้นจากกามะสวะ ก็พ้นจากภพ ล้วอวิชชาคือความไม่รู้ ทั้งหลายก็หมดไป ครั้นจิตพ้นวิเศษแล้ว ก็เกิดญาณหยั่งรู้ว่า จิตนี้พ้นแล้ว เรารู้ชัดว่าชาตินี้สิ้นแล้ว ไม่ต้องเกิดอีกแล้ว พรหมจรรย์คือการประพฤติตัวให้ประเสริฐหมดกิเลสกับบรรลุแล้ว กิจที่จะต้องทำได้สำเร็จแล้ว กิจอื่นที่จะต้องทำเพื่อ ความหลุดพ้นก็ไม่ได้มีอีกแล้ว นี่เป็นวิชชา 3 ที่เราได้บรรลุแล้ว ในยามปลายแห่งราตรี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อตรัสรู้นั้น ท่านเกิดความรู้ เกิดวิชชาตามลำดับคือ ระลึกชาติของพระองค์ได้ เป็นวิชชาที่ 1 คือบุพเพนิวาสานุสสติญาน เมื่อยามหนึ่ง ระลึกชาติผู้อื่นได้ เป็นวิชชาที่ 2 คือจุตูปปาติญาน เมื่อยามสองและ บรรลุอาสวขยญาณ เป็นวิชชาที่ 3 หมดกิเลสในระยะวันเก่าต่อกับวันใหม่ เมื่อรุ่งอรุณก็ตัดกิเลสทั้งหลายได้สิ้น อวิชชาถูกทำลาย วิชชาก็เกิดขึ้น ความมืดถูกทำลาย ความสว่างก็เกิดขึ้น เป็นอาการที่เกิดแก่บุคคลผู้ไม่ประมาท บำเพ็ญเพียรเผาบาป นี่คืออาการที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ธรรมเมื่อวันเพ็ญกลางเดือน 6 ทรงค่อย ๆ ขุดคุ้ย ค่อย ๆ พิจารณาพากเพียรทดลอง ค่อย ๆ กลั่นกรองเผาผลาญกิเลสจนสิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ แล้วยังเล่าต่อให้ลูกศิษย์ลูกหาฟัง ทุกแง่ทุกมุมไม่ปิดบัง เป็นข้อความจริงที่ลูกศิษย์ลูกหาประพฤติปฏิบัติตามแล้ว ก็ได้ผลสำเร็จเช่นเดียวกับพระองค์ ๆ ด้วยเหตุนี้จึงมีพระอรหันต์เกิดตามขึ้นมามากมาย ต่อเนื่องกันมาเป็นสายไม่ขาดช่วงขาดตอน ทรงประกาศพระศาสนา เมื่อตรัสรู้แล้วก็ประทับเสวยวิมุติสุขอยู่ 7 สัปดาห์ ในระหว่างที่พระองค์เสวยวิมุติสุข คือความสุขอันเกิดจากการ ตรัสรู้ธรรมนั้น พระองค์ทรงคำนึงถึงพระมโนปณิธานที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้น ในอันที่จะปลดเปลื้องความทุกข์ให้แก่ชาวโลก อยู่ตลอดเวลา จึงทรงพิจารณาแยกหมวดหมู่ธรรมะ แจกแจงรายละเอียดเตรียมไว้อย่างพร้อมมูล เพื่อเตรียมพระองค์ ทําหน้าที่เป็นยอดกัลยาณมิตรให้แก่ชาวโลก
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More