ข้อความต้นฉบับในหน้า
เด็กแดง ๆ คนหนึ่งเป็นเด็กชาย นอนหวายอยู่ จึงนำมาเลี้ยงไว้ จนครบโตมีอายุได้ ๑๐ ปี หรือ ๒ ปี. ต่อมาชฎิมิฐระที่จะต้อง ไปในชนบท จึงเรียกเด็กมาส่งให้ชาปไฟ (คอยเผาไฟใส่ในกองไฟ) อย่าให้ดับได้. ถ้าไฟดับ มีอยู่ใน ไม้สีไฟอยู่ นี้. งุดไฟให้ติด บุษาไฟต่อไป. เมื่อส่งเสร็จและไปแล้ว เด็กม้วนเล่นเพลินไปไฟก็ดับ. เด็กคิดอิงคำสั่ง จึงเอามาครกไม้สีไฟด้วยหวังจะได้ไฟ ก็ไม่ได้ไฟ ผังไม่สีไฟออกเป็น ๒ ชีก ๓ ชีก จนถึง ๒๐ ชีก ทำเป็นชน ๆ ไปสักคราดำ แล้วเอามูโรงที่ลมด้วยหวังจะได้ไฟ แต่ก็ไม่ได้. ฤทธิกลับมาเห็นเช่นนั้น ถามทราบความแล้ว จึงคิดว่า เด็กนี่ยังอ่อน ไม่ฉลาด จะหาไฟโดยวิธีที่ไม่ถูกได้อย่างไร จึงเอาไม้สีไฟมาสู่ให้เด็กดูด้วยวิธีทำไฟให้ติด. พระองค์ก็ชนเดียวกัน ทรงหาโลกอื่นโดยวิธีที่ไม่ถูก. ในที่สุดได้แนะนำให้พระเจ้าปายสิทธรงสะความเห็นผิดนั่นเสีย. แต่พระเจ้าปายสิทธอ้างว่า ทรงสะไม่ได้ เพราะพระเจ้า ปเทศินิโกศลและพระราชาในรัฐจะอื่น ๆ ก็ทรงทราบกันทั่วไปว่า พระองค์มีความเห็นอย่างนี้ ก็จะพากันติเตียนได้. พระภูมีกัลษปสปเถจะยกอุปมาเพื่อจงใจให้ทรงสะความเห็น ผิดนั่น ๆ แต่เมื่อยังไม่ทรงยอมก็อุปมาอีกร โดยเน้นนี้เป็นอุปมา ๔ ข้อดังต่อไปนี้ ? -
๑. เปรียบเหมือนพ่อค้าเกวียนหมู่ใหญ่ ๆ เดินทางจากภาคตะวันออกไปตะวันตก แล้วได้บ่งกองกวีเนออกเป็น ๒ กอง กองละประมาณ ๕๐๐ เล่ม ให้บวบหนึงสีงหน้าไปก่อนอีกขวบหนึงจะตามไปภายหลัง ขวบหน้างหน้าไปก่อนถูก
**ปัจจุบาณาชาดก**