ข้อความต้นฉบับในหน้า
ในภาคคำมีพิธีฌาปณกิจพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) พระผู้ปราบมาร โดยมีพระราชภาวนาจารย์ (หลวงพ่อทัตตชีโว) ประธานสงในพิธีจุดประทับเป็นผู้นำ นั่งสมาธิและนำอธิษฐานจิต ก่อนสาธุชนมีผู้สมาธิเกลับเดินทางกลับบ้าน มีจุดพลุฉลองชัยท้องฟ้าที่มลกลางความปลื้มปิติอันอิ่มเอมใจของผู้ไปร่วมงานทุกท่าน ผลที่เกิดขึ้นจากพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์นี้ ล้วนก่อประโยชน์แก่อกคติความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองแห่งพระพุทธศาสนา เพราะตราบใดที่พระกายฯ เหมะ หรือ ชาวพุทธ ได้ดำเนินรอยตามปฏิปทาของท่านปุวัณนั่ ที่อาจจริงเอาจริงทั้งด้านบริบูรณ์ ปฏิปัติปฏิวาส พระพุทธศาสนาย่อมไม่เสื่อมถอยดอยตรานไป ซึ่งในก็มีปฐมสมโภคกล่าวถึงเหตุการณ์ที่พระพุทธศาสนาจะถึงกาลสูญสิ้นโดยเรียงลำดับความเสื่อมไว้ ๕ ประการ เรียกว่า “ปัญจอัปตรธาน” ได้แก่
ประการแรก “ปฏิอันตรธาน” คือ ความเสื่อมแห่งพระไตรปิฎก ไม่มีผู้ศึกษาเล่าเรียน ภิกษุทั้งหลายไม่อาจทรงจำได้ดีงามอรรถรสทรงไว้แต่มูลสิ่งเดียวจนที่สุดไม่มีผู้จำพวกจะได้แม้แต่บัณฑิตเดียว
ประการที่สอง “ปฏิอัตตรธาน” คือ สูญสิ้นการปฏิบัติที่บำเพ็ญเพื่อภาวนา เพื่อการบรรจบชมรรร ผลบรรพดิไม่ได้ปฏิบัติตนเพื่อขัดเกลากิเลส คลาดจากความเพียร มีได้ดีเท่าเต็ภาพและกัน ลวงอาบันดลใหญ่จนกระทั่งในที่สุดพระองค์ก็สิ้นสำราวร้ายปารชิกสิขาบทมีได้แล้ว จึงได้ชื่อว่า ปฏิอันตรธาน
ประการที่สาม “ปฏิอันตรธาน” คือ การสุขสิ้นจากการบรรลุมรรร ผล ความเสื่อมต่อเป็นผลเนื่องจากประกาศที่สอง คือ เมื่อไม่มีการปฏิบัติก่อนก็ไม่มีการบรรรค ผล
ประการที่สี่ “ลิงค์อันตรธาน” คือ ความเสื่อมสิ้นจากสมณเพศ ภิกษุทั้งหลายจะหายบั้วหวัดด้วยสายหวัด แล้วจะเที่ยวภิกาจาร ประพฤติผิดเพี้ยนๆ จนเป็น