สถานการณ์ปัจจุบันของคณะสงฆ์และบทบาทในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา วารสารอยู่ในบุญประจำเดือน มีนาคม พ.ศ.2558 หน้า 104
หน้าที่ 104 / 144

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงสถานการณ์ในคณะสงฆ์ที่มีความเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านบทบาทและการเข้าวัดของประชาชน โดยเฉพาะคนวัยเกษียณที่มาบวชเป็นหลวงตา และมุมมองว่าพระไม่สามารถดึงดูดโยมให้เข้าวัดได้อย่างที่เคย เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณภาพของวัดลดลง นอกจากนี้ยังพูดถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างเชิงรุก การนำเอาธรรมะเข้าสู่ประชาชน และความจำเป็นในการพัฒนาจิตใจของผู้คนเพื่อสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้เกิดขึ้นอีกครั้ง บทความยังแสดงให้เห็นถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคนี้ และการร่วมมือร่วมใจของชาวพุทธในการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในประเทศไทยเพื่ออนาคตที่ดีขึ้น.

หัวข้อประเด็น

-สถานการณ์คณะสงฆ์
-บทบาทพระในปัจจุบัน
-การเผยแผ่พระพุทธศาสนา
-การฟื้นฟูศรัทธา
-ความท้าทายของวัดต่อสังคม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ช่องทางในการศึกษา จบแล้วมีศรัทธาก็อยู่ต่อ ส่วนหนึ่งก็เลิกไป อีกส่วนหนึ่งเป็นผู้สูงอายุ เกษียณอายุ 60-70 ปี ไม่มีกำทำก็เลยมาบวชเป็นหลวงตา ฝ่าวิว โอกาสศึกษาธรรมะไม่ค่อยมีแล้ว เพราะอายุมาแล้ว สุขภาพร่างกายไม่ค่อยดี แต่ว่าวิวเพื่อรักษาวัด คุณภาพสูงมีโดยรวมเลยลดลง ถามว่าปัจุบันคนที่มีความรู้ จะมารู้ดีคนที่อาศัย คณะสงฆ์ผู้นำทางความคิด พระประมาณ 100,000 รูป มีสักกี่ปีพูดแล้วปัญญาชนในสังคม ฟังและถือเป็นเข็มทิศนำชีวิต คนไม่เอนเลยรู้สึกว่าตัวเองดีว่าพระ พระไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร ไหวพระก็ไหว้พระเผินตามประเพณีจะไปวัดก็ไปตามประเพณี คนที่ปวดเพื่อฟังเทศน์ฟังธรรม ถือศีล สวดมนต์ นั่งสมาธิ เหลือบ่อย ลงทุกที นี้คือภาวะที่เป็นจริงในปัจจุบัน แต่นาดคณะสงฆ์ก่อนแกล้งอย่างนี้ ถึงมีส่วนช่วยสังคมอย่างมาก ทำหน้าที่เหมือนสถาบันสงฆ์ระนาดใหญ่ มีเครือข่ายถึง 100,000 แห่ง ทั้งประเทศ คอยรองรับผู้ที่อยากให้โอกาสในสังคมให้มีไป มีโอกาสพัฒนาตัวเอง เด็กทุกคนในเมืองไทย ถ้ารักดีดีก็จะพัฒนาตัวเอง หรือผู้สูงวัยมายบวช คณะสงฆ์ก็โอบอุ้ม สงฆ์ก็โอบอุ้ม แต่ความภาพของสงฆ์โดยรวมอ่อนลง มีส่วนหนึ่งหาทางแก้ปัญหาคนวัดน้อยลง โดยหากลยุทธ์ดีคน เช่น จัดงานมหรสพช่วงสงกรานต์และช่วงตรุษจีนที่คนกลับบ้านกัน หรือถ้ายกยออะไร ก็เอาใจยโยม เช่น ดูผมให้ ใบหวยให้ พิธีกรรมแปลก ๆ ก็มีโยมชอบไสยเวท ไสยศาสตร์ พระก็ศึกษาสิ่งเหล่านี้เพื่อเอาใจโยม ไม่ได้เอาธรรมะดิ่งคนเข้าวัด แต่ตามใจเลสโยมแทนที่พระจะจุงโยมเข้าวัด กลายเป็นโยมจุงพระ อันนี้ก็เปิดทางไปหน่อย นี้คือภาวะที่เกิดขึ้นจริง ๆ ในคณะสงฆ์ สาเหตุมาจากชีวิตคนเปลี่ยน บทบาทหน้าที่ของวัดเปลี่ยน ในยุคนี้นะเอง ๆ คนไม่เข้าวัด จะเป็นปัญหาต้องเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุก เอาธรรมะไปสู่ประชาชน แล้วลูกกระแสความดีตัวในพระพุทธศาสนาให้ฟื้นกลับมา สิ่งที่หลวงพ่อท่าน เช่น จัดตั้งมรดกพระสองล้นรูป เดินดูดึๆกลางกรุง (ที่จริงเดินทั้งประเทศ ต่างจังหวัดเดินในกรุงเทพฯ ก็เดิน แต่เดินต่างจังหวัดก็ไม่เห็น) เพื่อการฟื้นฟูศรัทธาประชาชนที่มีต่อพระพุทธศาสนาให้ตื่นขึ้นมา มีการจัดบวชพระแสนรูปเพื่อแก้ปัญหาวัดร้าง เป็นการเผยแพร่ธรรม เป็นจริง ๆ แล้วเป็นประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนามาก เป็นสิ่งที่คนไทยกำลังขาดอยู่อย่างดี แต่เบื่อว่าอะไรที่เป็นของใหม่ก็จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นธรรมดา พอมาเบวกบการสื่อสารในยุคปัจจุบันที่รุนแรงมาก การวิพากษ์วิจารณ์นี้เลยขยายไปในวงกว้าง กลายเป็นการนับถอย ที่จริงว่าจะสร้างกิจกรรมสร้างสรรค์พระพุทธศาสนาได้ ต้องออกเรือออกแรงและทุ่มเทญาณมาช่วยกันเยอะมาก ถ้าสื่อช่วยกันไหมกระแสก็จะเป็นการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาได้อย่างดี แต่บั่นทอนจิตใจ สิ่งที่ควรจะเป็นคุณกับพระพุทธศาสนาเลยอยู่ในแวดวงจำกัด นี่คือสิ่งที่น่าเสียดาย ถ้าชาวพุทธละหนถึงปัญหาโดยภาพรวมของพระพุทธศาสนา แล้วมาร่วมแรงร่วมใจช่วยกันฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ประเทศไทยจะไปได้ดี เพราะราคาคำสอนในพระพุทธศาสนาที่ลดลงเท่าไหร่ในจิตวิทยาไทย ยิ่งมีมาก แม้จะห่างวัดไปมากแล้ว แต่ถ้าทางวัฒนธรรมยังมีเยอะ ถ้าช่วยกันฟื้นฟู พุทธบริษัททั้งสี่เป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More