ข้อความต้นฉบับในหน้า
อานุจักรสุโขทัย พ่อขุนรามคำแหงมหาราช พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วง ลำดับที่ ๓ ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เป็นอย่างดี ทรงอาราธนาพระมหาเถรสงฆราช ผู้เรียนใบพระไตรปิฎกขึ้นมาจากเมืองนครศรีธรรมราชให้มาพำนักที่จอถิ่น เพื่อมาเผยแผ่พระธรรมวินัยแก่ประชาราษฎร์และตั้งคณะสงฆ์แบบลังกาวงศ์ในอาณาจักรสุโขทัยจนพระพุทธศาสนามีความรุ่งเรืองไกลศกาดังปรากฏในศิลาจารึกหลักที่ ๑ ด้านที่ ๒ ว่า
"..คนในเมืองสุโขทัยนี้ มักทาน มักทรงสี มักโอทาน พ่อขุนรามคำแหงเจ้าเมืองสุโขทัยนี้ ทั้งชาวแม่ชาวเจ้าทายป้ายว่าบ่าง ลูกเจ้าลูกขุน ทั้งสิ้นทั้งหลาย ทั้งผู้ชายผู้หญิง ฝูงท้วยมีศรัทธานใน*พระพุทธศาน ทรงศีลเมี่อพรอราชทุกคน..."
"...พ่อขุนรามคำแห่งกระษัต โอทยานแก่นพาหลาร สังราชปราชญ์ เรียนจบูฎิโรหลกา กว่า ปฐมในเมืองนี้ ทุกลูกแต่เมืองศรีธรรมราชา ..."
(คำอธานารักจากฐานข้อมูลสารากในประเทศไทย ศูนย์อนุราษฎรรยัยศรินธร)
ต่อมาในสมัยพระอยุธยา พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วงลำดับที่ ๖ ทรงนำบำรุงพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองจวบจนสุโขทัยกลายเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา พระองค์มักจะทรงเผดียงพระสงฆ์เข้าไปเรียนพระไตรปิฎกในมหาปราสาท และทรงจัดระเบียบคณะสงฆ์แบ่งเป็น ๒ ฝ่าย คือ ฝ่าย "คามวาส" และฝ่าย "อธิษฐาน" โดยให้ฝ่ายคามวาสเน้นการสั่งสอนราชภูมิในเมืองและเน้นการศึกษาในพระไตรปิฎก ส่วนฝ่ายอธิษฐานให้เน้นการวินิษฐานและประจำอยู่ตามป่าหรือขนบตน
ตู้พระธรรมไม่จำหลักปิดทอง เขียนสีระดับกระจก เล่าเรื่องเทวชาติ ศิลปะอยุธยาพุทธวรรณั์ ๒๐-๒๑
หมายเหตุ *พระพุทธศาสนา สะกดตามคำอ่านในศิลาจารึก ม.คม.บุณ ญ