ข้อความต้นฉบับในหน้า
“นิพพาน” ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของการเวียนว่ายตายเกิดว่าเป็นเป้าหมายเฉกเช่นเดียวกับ “พระพุทธศาสนาของพระศากยมุนี” แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ “วิธีการเพื่อให้เข้าถึงเป้าหมายนี้”
“พระพุทธศาสนาของพระศากยมุนี” มีแนวคิดว่าการจัดเก่าสนั่นต้องอาศัยการฝึกฝนอบรมตนเอง41 ในขณะที่ “พระพุทธศาสนาหายาน” มีแนวคิดว่า ที่พึ่งที่จะช่วยตนได้นั้นไม่ได้มาตาจากกำลังความสามารถของตนเอง แต่มาจาก “อานุณภาพภายนอก”โดยมติฐ ฐานว่าจำเป็นจะต้องมีผู้อื่นอานุณภาพภายนอกหรืออำนาจเหนือตรรษชาติคอยช่วยเหลือตนเองอยู่
เมื่อเป็นเช่นนี้ การสร้างความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นกับอำนาจเหนือรรษาชาติั้น ย่อมมีความสำคัญมากกว่าการออกบท๙บประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างคร่งครัด และแน่นอนว่า เมื่อการบรรลุธรรมสามารถได้ด้วยการอาศัยอานุภาพภายนอก ย่อมทำให้ความหมายหรือความสำคัญของ “หมวดัง” ที่เกิดขึ้นเพื่อก่อกุ่อต่อ การฝึกฝนอบรมตนเองนั้นหมดไปดังนั้น “พระพุทธศาสนาหายาน” จึงมีแนวความคิดต่อมาว่า “แม้คุฬสก็ผู้ครองเรือน ก็สามารถดำเนินอยู่บนเส้นทางของการบรรลุธรรมได้เช่นกัน”
นักศึกษา : จากสิ่งที่อาจารย์ได้พูดถึง ดูเหมือนว่า “พระพุทธศาสนาหายาน” จะมีเรื่องของพลังอำนาจเหนือธรรมชาติเยออยู่ แต่ “พระพุทธ-ศาสนาของพระศากยมุนี” เทนจะไม่มีเรื่องของพลังอำนาจเหนือธรรมชาตินี้อยู่เลยนะครับ สำหรับตัวผม ถ้าพูดถึงศาสนา ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ต้องมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพลังอำนาจเหนือธรรมชาติที่ก้าวข้ามปัญญาสามารถของมนุษย์เสมอไป